
นางสาวบุณยวีร์ บุญสงเคราะห์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์ธุรกิจและปฏิบัติการ บมจ.โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น [MOSHI] เปิดเผยว่า ภาคธุรกิจค้าปลีกในช่วงครึ่งหลังปี 68 คาดว่าจะยังคงเผชิญแรงกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอก แต่จะฟื้นตัวได้อย่างค่อยเป็นค่อยไปเมื่อมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและนโยบายการเงินที่เหมาะสม ผู้ประกอบการจะต้องปรับกลยุทธ์เพื่อเน้นตลาดภายในประเทศและกลุ่มลูกค้าท้องถิ่นมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาช่องทางการขายให้หลากหลาย การสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่แตกต่าง
เมื่อวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่ MOSHI พบว่าผู้บริโภคให้ความสนใจกับสินค้ารูปแบบใหม่ สไตล์ใหม่ เพราะเทรนด์แฟชันเปลี่ยนแปลงเร็ว ผู้คนให้ความสำคัญเรื่องราวการดำเนินงานของแบรนด์ หรือ การตลาดเชิงเล่าเรื่อง (Storytelling Marketing) ซึ่งเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ใช้การเล่าเรื่องราวเพื่อสื่อสารกับผู้บริโภค
บริษัทจึงดำเนินการภายใต้กลยุทธ์ "เข้าใจ" ผู้บริโภค โดยรับฟังข้อเสนอแนะและเสียงจากลูกค้า (Customer Feedback) ผ่านช่องทางต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อนำมาพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการและสร้างความสุขให้กับลูกค้าอย่างแท้จริง ด้วยจุดแข็งของบริษัทฯ คือ ความเข้าใจตลาดและประสบการณ์ที่สั่งสมมา การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การคัดสรรสินค้าคุณภาพที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในราคาเข้าถึงได้ และการบริหารจัดการสินค้าทุกกลุ่มอย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกัน ได้ขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจผ่านกลยุทธ์การพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมีการออกสินค้าใหม่กว่า 1,000 รายการต่อเดือน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ปรับปรุงร้านค้าปลีกให้มีความทันสมัยมากขึ้น เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ และประสบการณ์การช้อปปิ้งให้เป็น "Everyday Destination" ที่ลูกค้าสามารถเดินเลือกชมสินค้าได้อย่างเพลิดเพลิน เพื่อก้าวสู่การเป็นแบรนด์ "Top of Mind" ของผู้บริโภค
นางสาวบุณยวีร์ กล่าวเพิ่มว่า บริษัทยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการเติบโตผ่านการขยายสาขาตามเป้าหมายปี 68 จำนวน 40 สาขา เน้นการขยายรูปแบบหลากหลายในพื้นที่ศักยภาพ ครอบคลุมห้างสรรพสินค้า, คอมมูนิตี้มอลล์, ไฮเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงสาขา Standalone 2 รูปแบบ ได้แก่ สาขาใกล้กับมหาวิทยาลัยเพื่อเข้าถึงกลุ่มนักศึกษาและชุมชนโดยรอบ และสาขาขนาดใหญ่พื้นที่ประมาณ 300 ตารางเมตรในเขตชุมชน เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายและสร้างศูนย์กลางการจับจ่ายในพื้นที่
ปัจจุบัน บริษัทเปิดสาขาใหม่แล้วทั้งสิ้น 22 สาขา (ข้อมูล ณ วันที่ 15 ก.ย.68) และเตรียมทยอยเปิดสาขาเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปีอีก 18 สาขา เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและขยายการเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ด้วยกลยุทธ์ที่ครอบคลุมทั้งการพัฒนาสินค้า, การสร้างประสบการณ์ที่ดี และการขยายสาขา เชื่อว่าจะทำให้บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตของรายได้ที่ 15-20% ในปี 68 ได้ตามที่วางไว้