นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ [WHAUP] เปิดเผยว่า แม้ว่าภาพรวมในครึ่งปีแรกจะเต็มไปด้วยความท้าทายต่างๆ แต่บริษัทยังคงสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
โดยธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ) ยังคงมุ่งเน้นลงทุนขยายบริการแก่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ช่วงครึ่งแรกของปี 68 บริษัทเซ็นสัญญาขายน้ำเพิ่มกว่า 28 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี กลุ่มลูกค้าหลักเป็นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Data center ซึ่งมีความต้องการใช้น้ำสูง พร้อมคาดว่าจะเซ็นสัญญากับลูกค้ากลุ่มนี้เพิ่มเติมอีกในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่บริษัทได้ขยายกำลังการผลิตน้ำและระบบบำบัดน้ำเสียภายในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอเพื่อรองรับดีมานด์จากลูกค้าที่คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเริ่มทยอยรับรู้ยอดจำหน่ายน้ำจากลูกค้า Data center บางส่วนได้ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
ส่วนยอดจำหน่ายน้ำในปี 68 แม้ครึ่งปีแรกยอดขายในประเทศจะลดลง แต่คาดว่าช่วงครึ่งปีหลังจะดีขึ้นจากการฟื้นตัวของดีมานด์กลุ่มลูกค้าปิโตรเคมี ขณะที่ธุรกิจน้ำในประเทศเวียดนามยังมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ปัจจัยหลักมาจากโครงการ Doung River ที่ยังคงมีความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง บริษัทตั้งเป้าปริมาณยอดจำหน่ายน้ำรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศในปี 68 ไว้ที่ 166 ล้านลูกบาศก์เมตร ใกล้เคียงกับปีก่อน
ด้านธุรกิจพลังงาน (ไฟฟ้า) บริษัทได้ขยายการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน ทั้งในและนอกนิคมอุตสาหกรรมฯ รวมถึงในประเทศและต่างประเทศ โดยเน้นโครงการโซลาร์รูฟท็อป โครงการผลิตไฟฟ้าแบบ Feed-in-Tariff และ Direct PPA โดยในครึ่งปีแรก บริษัทฯ มียอดสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นจากโรงไฟฟ้าทุกประเภทรวม 991 เมกะวัตต์ ในจำนวนนี้เป็นพลังงานหมุนเวียน 463 เมกะวัตต์ โดยมีโครงการโซลาร์ที่ COD แล้ว 156 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างพัฒนาอีก 285 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ ยังได้ลงนาม MOU กับลูกค้ากลุ่ม Data Center เพื่อพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียน Direct PPA ขนาด 120 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวมเพิ่มเป็น 1,185 เมกะวัตต์ภายในสิ้นปีนี้ และคาดว่าจะมีโครงการโซลาร์เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มอีกกว่า 100 เมกะวัตต์ในช่วงครึ่งปีหลัง
นายอัครินทร์ ประเทืองสิทธิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ WHAUP เปิดเผยเพิ่มเติมว่า บริษัทมุ่งมั่นนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเสริมสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรม เช่น การนำนวัตกรรม AI มาใช้พัฒนา Smart Water Solutions, Solar Anomaly และ Solar Forecasting เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังผลักดันกลยุทธ์ Energy Trading ผ่านแพลตฟอร์ม Peer-to-Peer Energy Trading ซึ่งขณะนี้มีกลุ่มลูกค้าสนใจเข้าร่วมแล้วกว่า 30 ราย และเตรียมเริ่มทดสอบการซื้อขายจริงภายในโครงการ Sandbox ในเดือนพฤศจิกายนนี้ หากสำเร็จตามที่คาดการณ์จะเป็นการเพิ่มโอกาสใหม่ๆ ในการซื้อขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ รวมถึงต่อยอดไปสู่ธุรกิจคาร์บอนเครดิตในอนาคต
และ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าต่อยอดการเติบโตและสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ โดยเน้นการใช้นวัตกรรมควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และการสร้างคุณค่าให้กับสังคม ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ WHA: WE SHAPE THE FUTURE" ของ WHA Group