JSP วางโรดแมป 5 ปีผงาดผู้นำ Wellness ครบวงจร มั่นใจปีนี้นิวไฮแน่-รอส่งบ.ลูกเข้า LiVEs อีกรายปีหน้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 25, 2025 15:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

JSP วางโรดแมป 5 ปีผงาดผู้นำ Wellness ครบวงจร มั่นใจปีนี้นิวไฮแน่-รอส่งบ.ลูกเข้า LiVEs อีกรายปีหน้า

นายสิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) [JSP] ตั้งโรดแมป 5 ปี (ปี 68-72) เติบโตไปสู่ผู้นำธุรกิจสุขภาพ (Wellness) ผลักดันรายได้เติบโตเฉลี่ย 10-20% ต่อปี ด้วยการชูเวชภัณฑ์เกี่ยวกับยา อาหารเสริม เครื่องสำอาง สมุนไพร ให้กับทั้งคน สัตว์ และพืช อย่างครบวงจร เริ่มจากกระบวนการต้นน้ำคือวิจัยและพัฒนา กลางน้ำคือโรงงานผลิต และปลายน้ำคือการสร้างแบรนด์และจัดจำหน่าย ยกตัวเอย่างแบรนด์ดัง "สุภาพโอสถ" หรือเป็นที่รู้จักในแบรนด์ "แม่อี๊ด ดวงใจ" ถือว่าปัจจุบันประสบความสำเร็จในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับคนแล้ว

JSP วางโรดแมป 5 ปีผงาดผู้นำ Wellness ครบวงจร มั่นใจปีนี้นิวไฮแน่-รอส่งบ.ลูกเข้า LiVEs อีกรายปีหน้า
"อีก 5 ปี เราตั้งเป้าว่าเราจะโดดเด่นในอาหารเสริมสำหรับสัตว์เลี้ยง เครื่องสำอางสำหรับสัตว์เลี้ยง และอาหารเสริมพืช" นายสิทธิชัย กล่าว

สำหรับผลงานในปีนี้ บริษัทยังมั่นใจรายได้จะทำได้ตามเป้า 900-1,000 ล้านบาททำสถิติสูงสุด (New high) หลังจากครึ่งปีแรกทำรายได้แล้ว 491 ล้านบาท โดยกลยุทธ์ของบริษัทหลังจากครองความผู้นำตลาดโฮมชอปปิ้งอาหารเสริมมาอย่างต่อเนื่องแล้ว ในปีนี้บริษัทหันมารุกช่องทางการขายผ่านแพลตออนไลน์และโซเชียลมีเดียมากขึ้น ทำให้สัดส่วนเพิ่มขึ้นมาเป็น 20% จากเดิมที่ไม่เคยมีมาก่อน ช่วยสนับสนุนรายได้จากอาหารเสริมเติบโตขึ้น

อย่างไรก็ตาม จากภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวน และมีการชะลอตัว แต่ผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจมีผลต่อกลุ่มลูกค้าวัยทำงานบ้าง อาจชะลอการตัดสินใจซื้ออาหารเสริมลงไปบ้าง แต่ในกลุ่ม Gen Baby Boomer ยังเห็นการซื้ออาหารเสริมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่องทางโฮมช้อปปิ้ง ซึ่งกลุ่ม Baby Boomer ถือว่ามีกำลังซื้อแข็งแกร่ง จึงยังคงช่วยหนุนการเติบโตของตลาดอาหารเสริมอย่างต่อเนื่อง และเป็นปัจจัยหนุนต่อ JSP ด้วยเช่นกัน

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมองถึงการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ นอกเหนือจาก CLMV โดยจะเป็นการขยายช่องทางผ่านความร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โดยการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดังของจีน เช่น Taobao และ Weibo เป็นต้น ซึ่งเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับผลิตภัณฑ์ของ JSP ได้นำไปขายสู่ตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น

ส่วนธุรกิจตู้จำหน่ายยาอัตโนมัติ (Vending Machine) ปัจจุบัน 200 ตู้ แต่ยังไม่มีแผนขยายตู้เพิ่มชัดเจน เนื่องจากยังรอความชัดเจนของนโยบายจากกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวการให้บริการ Telemedicine ออกมาก่อน ซึ่งช่วงที่ผ่านมาบริษัทเตรียมสั่งผลิตตู้ขายยาอัตโนมัติรุ่นใหม่ที่รองรับระบบ Telemedicine รอไว้แล้ว จึงยังไม่เร่งการขยายพื้นที่ติดตั้งตู้เพิ่มในตอนนี้ มีเพียงการสับเปลี่ยนตู้ไปที่ในทำเลที่สร้างยอดขายได้ดี แต่หากมีความชัดเจนเกี่นวกับ Telemedicine แล้วก็จะทยอยติดตั้งตู้รุ่นใหม่ในสถานที่ต่างๆ เพิ่ม ทั้งในโรงพยาบาล และคอนโดมิเนียม

นายสิทธิชัย กล่าวอีกว่า สำหรับการเติบโตอีกมิติหนึ่งของ JSP ได้ประสบความสำเร็จในการนำ บมจ.เกรซ วอเทอร์ เมด [GWM] เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx) ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ GWM สามารถเติบโตได้เองในธุรกิจการผลิตน้ำยาฟอกไต AB Solution การนำเข้าเครื่องฟอกไตหรือเครื่องฟอกเลือดมาขายและปล่อยเช่า รวมถึงธุรกิจ RO ที่ตั้งเป้าหมายจะเติบโตปีละ 10% เป็นอย่างต่ำ เนื่องจากปัจจุบันมีลูกค้าเป็นคลินิกฟอกไต 150 สาขา และมีโอกาสเติบโตยังมีอีกมากเนื่องจากทั้งตลาดมีคลินิกทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 1,300 แห่ง มาร์เก็ตแชร์ของ GWM อยู่ที่ประมาณ 10% ซึ่งการเติบโตของ GWM มีผลต่อ JSP แบบบูรณาการต่อบริษัทลูกอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

บริษัทยังมีแผนนำ บมจ.ซีดีไอพี (ประเทศไทย) (CDIP) จดทะเบียนเข้า LiveX ภายในปลายปี 69 โดย CDIP ประกอบธุรกิจรับจ้างวิจัยเชิงวิชาการในห้องปฏิบัติการ รับจ้างทดสอบและวิเคราะห์ผลทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงจัดฝึกอบรมและสัมมนา และให้คำปรึกษาการยื่นขอทุนวิจัยและพัฒนา ซึ่งการเข้า LiveX จะทำให้บริษัทสามารถมี Strategic Partner เข้ามาช่วยต่อยอดธุรกิจได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ