FETCO ส่งข้อเสนอถึงมือนายกฯ ตั้งทีม Thailand Story-เว้นภาษีปันผล-ดึง New Economic-แก้กม.หนุนเพิ่มสภาพคล่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 25, 2025 13:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ระบุว่า ในระหว่างการหารือกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ได้นำเสนอข้อเสนอมาตรการ Quick - Big Win เสริมพลังความเชื่อมั่นให้กับทั้งนักลงทุนและผู้ร่วมตลาด สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ตอกย้ำบทบาทตลาดทุนในการเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน

1. เสริมสร้างความเชื่อมั่นในนโยบายภาครัฐ โดยจัดตั้งทีมงานร่วมระหว่างภาครัฐและภาคดลาดทุนเพื่อสื่อสาร Thailand Story แก่นักลงทุนในประเทศและนักลงทุนต่างซาดิ และเตรียมความพร้อมสำหรับการจัด Country Roadshow

2. พัฒนาเครื่องยนต์เศรษฐกิจยุคใหม่ (New Economic Driver) ด้วยกลไกตลาดทุน ผ่านการจูงใจบริษัทที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และโครงการเขดพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) เข้าจดทะเบียนในดลาดหลักทรัพย์

3. เพิ่มสภาพคล่องระยะยาวในตลาดทุนไทย ยกเว้นภาษีเงินปันผลสำหรับการลงทุนระยะยาว สนับสนุนการลงทุนใน Thai ESG Scheme แบบถาวร และเพิ่มแรงจงใจในการดึงดดเม็ดเงินจากนักลงทนสถาบันในประเทศ

4. สู่อนาคตไทยที่ยั่งยืน Upskil-Reskill แรงงานไทย ผ่าน e-Learning ขับเคลื่อนโดยตลาดหลักทรัพย์ฯและบริษัทจดทะเบียน ปราบปรามการหลอกลวงการลงทุน เพื่อสภาพแวดล้อมทางการเงินที่ปลอดภัยสำหรับประชาชน และแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นภาระ อุปสรรค (Regulatory guillotine)

"การได้นำเสนอข้อเสนอมาตรการ Quick - Big Win ในวันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่น และผลักดันให้ตลาดทุนไทยเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนนโยบายภาครัฐ สอดรับกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในด้านการดึงดูดการลงทุน การสร้างธุรกิจใหม่ และการยกระดับศักยภาพการแข่งขันของประเทศ ซึ่งมาตรการเหล่านี้สอดคล้องกับข้อเสนอของคณะกรรมการพิจารณามาตรการปฏิรูปดลาดทุนไทย (Taskforce)"

สำหรับในขั้นต่อไป สภาธุรกิจดลาดทุนไทยจะนัดเข้าพบ รมว.คลัง และ รมว.พาณิชย์เพิ่มเดิม เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม อันจะช่วยยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจไทยโดยรวม

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า สิ่งที่ FETCO เสนอ เพราะรู้ว่ารัฐบาลมีระยะเวลาทำงานไม่นาน จึงนำเสนอมาตรการที่ตรงเป้าและกระชับ ซึ่งความสำเร็จของรัฐบาลชุดนี้จะมาจากทีมที่ใช่ นโยบายที่ใช่ ซึ่งจากที่รับฟังก็มีนโยบายที่มุ่งเป้าหมาย ฟังแล้วรู้สึกมั่นใจ ซึ่งจะเริ่มปรากฎความชัดเจนหลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา หลังจากนั้นจะมี Aaction แสดงการกล้าตัดสินใจ และสุดท้ายคือการสื่อสารที่ใช่

ฝ่ายตลาดทุนเองจะตั้งทีมงานร่วมกับภาครัฐสื่อสารประเด็นต่างๆ ข่าวดี ความคืบหน้าในการจัดการมาตรการต่างๆ ที่จะสามารถขับเคลื่อนให้เกิดผลในช่วง 4 เดือนข้างหน้า เพื่อนำนโยบายไปสู่นักลงทุนไทยและต่างชาติ เราจะทำงานร่วมกับรัฐบาลนี้ในช่วง 4 เดือน และเมื่อถึงเวลาเหมาะสมจะจัดโรดโชว์เพื่อให้ข้อมูลกับผู้ลงทุนว่าเราได้ทำอะไรที่ประสบความสำเร็จไปแล้วบ้าง ซึ่งจะนำความเชื่อมั่นกลับมา

"ถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน และมุ่งไปสู่เป้าหมายดังกล่าว ซึ่งนายกฯ มีความตั้งใจที่จะทุบโต๊ะ ทำงานให้สิ่งต่างๆ เรียบร้อย ก็คิดว่าเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงประเทศได้ และสร้างความเชื่อมั่นให้เศรษฐกิจไทยได้" นายกอบศักดิ์ ระบุ

ข้อเสนอของ FETCO ยังขอให้ปลดล็อกอำนวยความสะดวกให้บริษัทที่ได้รับสิทธิประโยชน์จาก BOI และ EEC เพื่อดึงดูดบริษัทขนาดใหญ่เข้าตลาดหุ้น ด้วยสิทธิประโยชน์และแรงจูงใจเพื่อให้กลาย New Center ของตลาดหลักทรัพย์อย่างแท้จริง พร้อมไปกับการเพิ่มสภาพคล่องและสนับสนุนการลงทุนของประชาชน ด้วยการยกเว้นภาษีปันผลสำหรับการลงทุนระยะยาว กำลังหารือว่าจะปรับลดอย่างไร กลุ่มไหน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้รายย่อยที่ต้องการเก็บออมระยะยาวได้รับประโยชน์อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

"เราอยากได้ ESG ซึ่งทำมา 2 ปีแล้ว อยากให้เกิดความถาวร จะหารือกับกระทรวงคลัง และจะเพิ่มแรงจูงใจในการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนสถาบันจากต่างประเทศเข้าสู่ประเทศไทย นอกจากสร้างความเชื่อมั่น สร้างแรงขับเคลื่อนใหม่แล้ว เพิ่มดีมานด์เพิ่มสภาพคล่องแล้ว ทำให้เกิดเวลท์เอฟเฟค เกิดความมั่งคั่ง คนจับจ่ายใช้สอย เศรษฐกิจก็จะฟื้น" นายกอบศักดิ์ กล่าว

ส่วนกรณีปัญหานักลงทุนที่ถูกหลอกลวงนั้น เราได้เสนอกับนายกฯ ว่าจะเอาจริงเรื่องนี้ปราบปรามเรื่องการหลอกลวงการลงทุน ซึ่งเม็ดเงินที่เสียหายในภาพรวมระดับแสนล้านบาทนั้น อยู่ในตลาดทุนประมาณ 55% หรือคิดประมาณ 55,000 ล้านบาท

"ถ้าปล่อยไป นักลงทุนที่อยากเก็บออม ฝากอนาคตไว้กับตลาดก็จะได้รับความเสียหาย เราจะคุยกับกระทรวงดีอี และทำงานกับรัฐบาลเพื่อคุยกับแพลตฟอร์มต่าง ๆที่ยิงแอดโฆษณา ผ่านเครื่องมือสื่อสารต่างๆ จะเอาจริงเรื่องนี้ และจะสร้างระบบให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ว่าการโฆษณาการลงทุนได้รับผลตอบแทนเกินจริงหรือไม่" นายกอบศักดิ์ กล่าว

นายกอบศักดิ์ ระบุว่า ในเรื่องกิโยตินกฎหมายนั้น เรามีข้อเสนอหมดเรียบร้อย ไม่ต้องศึกษาใหม่ เพราะศึกษามา 2 ปีและมีคำตอบหมดแล้ว เหลือแค่คนกดปุ่มทำเท่านั้น

"หลายอย่างอยู่ที่กระทรวงพาณิชย์ รมว.พาณิชย์ บอกจะจัดการให้ ซึ่งจะช่วยลดอุปสรรคให้กับตลาดทุน รมว.คลัง ก็รับจะจัดการในเรื่องเกี่ยวกับกระทรวง และเราขอนายกฯ จะคุยรอบสองเพิ่มเติม กับรมว.คลัง และรมว.พาณิชย์ ในเรื่องเหล่านี้ จัดทีมงานทำงานร่วมมือกับรัฐบาล" นายกอบศักดิ์ ระบุ

นายกอบศักดิ์ กล่าวด้วยว่า จะมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ เพื่อปลดล็อกให้มูลนิธิ สมาคม ประกัน ที่มีเงินกองทุนอยู่ ดังนั้น ถ้าแก้กฎหมายจัดกองใหม่ที่เหมาะสมกับองค์กรตามความเสี่ยง ติด Label ให้ชัดเจน ก็น่าจะสามารถเพิ่มผลตอบแทน สามารถนำเงินในกองทุนต่าง ๆ ไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนได้

"สมาคมต่าง ๆ เขามีเม็ดเงินเยอะ รวมกันเป็นหมื่นล้าน แต่ติดเกณฑ์บางอย่างที่ทำให้ลงทุนไม่ได้ เราจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปลดล็อกเรื่องนี้ ทั้งหมดนี้ เป็นการปลดล็อกเพื่อผลระยะยาว พอเราทำเรื่องนี้ได้ พอประตูเปิด น้ำจะไหลตลอดเวลา 4 เดือนแม้จะดูสั้น ถ้าพุ่งเป้าปลดล็อกตามที่เราตั้งใจไว้ ก็จะเป็นการเปลี่ยนตลาดทุนในระยะยาวต่อไป" นายกอบศักดิ์ ระบุ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ