(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์อัพจากตัวเลขจ้างงานต่ำคาดหนุนเฟดลดดอกเบี้ยต่อ-บอนด์ยีลด์ย่อ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 2, 2025 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์อัพ โดยที่มีปัจจัยหนุนตลาดหุ้นจากตัวเลขการจ้างงานเอกชนสหรัฐเดือนก.ย.ที่เมื่อคืนนี้รายงานออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้เป็นแรงหนุนต่อโอกาสความคาดหวังในการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่อได้ และทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐย่อตัวลงมา

อย่างไรก็ตามอาจจะยังมีแรงกดดันเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง และยังรอติดตามการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในช่วงปลายสัปดาห์นี้เกี่ยวกับแนวโน้มของกำลังการผลิตน้ำมัน ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาแกว่งตัวขึ้น

โดยให้แนวต้าน 1,280-1,285 จุด แนวรับ 1,260-1,265 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (1 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,441.10 จุด เพิ่มขึ้น 43.21 จุด หรือ +0.09%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,711.20 จุด เพิ่มขึ้น 22.74 จุด หรือ +0.34% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,755.16 จุด เพิ่มขึ้น 95.15 จุด หรือ +0.42%

- ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าเปิดผันผวน ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 44,736.03 จุด เพิ่มขึ้น 185.18 จุด หรือ +0.42% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 26,918.30 จุด เพิ่มขึ้น 62.74 จุด หรือ +0.23% ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดทำการในวันนี้เนื่องในวันชาติ ส่วนตลาดหุ้นอินเดียปิดทำการเนื่องในวันคานธีชยันตี (Mahatma Gandhi Jayanti)

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (1 ต.ค.) 1,275.03 จุด เพิ่มขึ้น 0.86 จุด (+0.07%) มูลค่าการซื้อขาย 35,487.18 ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (1 ต.ค.) 1,376.44 ล้านบาท

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. (1 ต.ค.) ลดลง 59 เซนต์ หรือ 0.95% ปิดที่ 61.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 ต.ค.) อยู่ที่ 1.92 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 32.44 ตลาดจับตานโยบายผู้ว่าฯธปท.คนใหม่ คาดกรอบวันนี้ 32.30-32.55

- "เอกนิติ" รองนายกฯ และรมว.คลัง พร้อมเดินหน้าโครงการ Fast Pass แก้ปัญหาเงินค้างที่ยังไม่ได้เริ่มลงทุนกว่า 4.7 แสนล้านบาท หลังจากได้รับบีโอไอ ย้ำจะให้แล้วเสร็จภายใน 4 เดือนข้างหน้า ส่วน "คนละครึ่งพลัส" เริ่มใช้จ่าย 29 ต.ค. 68 ด้าน "ดร.ศุภวุฒิ" ประธานสภาพัฒน์ฯ ชี้ "กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ" (SWF) หวังผลตอบแทน 5% ต่อปี คิดเป็นเงิน 1.5 แสนล้านบาท ช่วยเสริมรายได้เข้ารัฐ เผยปัจจุบันทั่วโลกมีกองทุนประเภทนี้ถึง 90 ประเทศ ด้าน "ผยง" ประธานสมาคมแบงก์ ย้ำเห็นด้วยตั้ง SWF เหตุช่วยแก้ปัญหาค่าบาทได้

- "พิพัฒน์" ล้มแผนแก้สัญญา "ไฮสปีดสามสนามบิน" ค้าน "สร้างไปจ่ายไป" เตรียมนัดถก 3 ฝ่าย "ซีพี-สกพอ.-รฟท." เพื่อผ่าทางตันโครงการ ยันต้องได้ข้อสรุปภายใน 4 เดือน หลังโครงการนี้ล่าช้ามากกว่า 6 ปี เผยแผนสำรองขยายทางคู่ จากแหลมฉบัง-อู่ตะเภา ชี้ใครขอยกเลิกต้องรับผิดชอบความเสียหาย

- "พิพัฒน์" กางแผน 4 เดือนเทกระจาดประมูลด่วน 6 โครงการรวมกว่า 1.13 แสนล้านบาท ตั้งกรรมการร่วมกระทรวงการคลังพิจารณามาตรการค่าโดยสารรถเมล์รถไฟฟ้า หลัง 20 บาทตลอดสายสิ้นสุด 30 พ.ย.นี้ พร้อมเดินหน้าสางปมไฮสปีด 3 สนามบิน

- กกร.จับตาเศรษฐกิจโลกอาจผันผวนหนัก ชี้ไตรมาสสุดท้ายของปีมีทิศทางชะลอตัว แต่ยังมั่นใจคงตัวเลข GDP ในประเทศที่เติบโต 1.8-2.2% หวังรัฐเร่งเบิกจ่ายปีงบ 69 เร็ว ดันตัวเลขเศรษฐกิจโตถึง 2.5%

- IAA เผย นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยไตรมาส 4/2568 มองจีดีพีโต หลังรัฐบาลเร่งมาตรการระยะสั้นกระตุ้น ดอกเบี้ยขาลงชัด คาดหวังผู้ว่าธปท.ใหม่ กำไรบจ.โตหลังผ่านจุดต่ำสุดช่วง Q2 มีลุ้นดัชนีแตะ 1,356 จุด คาดดัชนีหุ้นไทยปีหน้าแตะ 1,415 จุด เชื่อฟันด์โฟลว์ไหลจะสลับซื้อขาย จนกว่ารัฐบาลประกาศยุบสภา ต่างชาติจะกลับมาซื้อต่อเนื่อง

- YLG ย้ำราคาทองยังไม่เข้าภาวะฟองสบู่ หลังราคาทองคำโลกพุ่งแรง 47% ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง มองยังมีแนวโน้ม "พักเพื่อขึ้นต่อ" หากยืนเหนือ 3,409 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (52,000 บาทต่อบาททองคำ) ได้ประเมินเป้าหมายถัดไปที่ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (61,600 บ.) รับปัจจัยบวกเข้าหนุนเพียบ

*หุ้นเด่นวันนี้

- CPAXT (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 24.00 บาท คาดแนวโน้มกำไรในช่วงครึ่งปีหลังจะฟื้นตัว ดีกว่าครึ่งปีแรก และดีกว่าที่ตลาดเคยประเมินไว้ จาก SSSG ที่มีโอกาสฟื้นตัว สอดคล้องกับภาคการบริโภคที่จะดีขึ้น ตามการเข้าสู่ช่วงฤดูกาล

โอกาสที่ภาครัฐฯจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเฉพาะการกระตุ้นภาคการบริโภค ถือเป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีก

- KCE (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 27.00 บาท มองเชิงบวกแนวโน้มกำไรฟื้นใน H2/68 แนวโน้มไตรมาส 3/68 เป็นบวกหลังกำไรถูกกดดันจากค่าใช้จ่ายครั้งเดียวหลายรายการ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายทางกฎหมายและการรวมสำนักงานขายในอังกฤษ-เยอรมนี อุปสงค์อ่อนลงจากความกังวลภาษีสหรัฐฯ และบาทแข็ง การซื้อกิจการสำนักงานขายสองแห่งยังทำให้ต้องตัดสินค้าคงเหลือทางบัญชีส่งผลให้รับรู้รายได้ล่าช้าราว 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ/ไตรมาสใน H1/68 คาดผลกระทบจะหมดไปในไตรมาส 2/68 หนุนกำไรราว 30-40 ลบ. ยังมี upside จากปริมาณคำสั่งซื้อสูงขึ้นช่วยเพิ่มการใช้กำลังการผลิตราว 5% และเพิ่ม GPM

- KTC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 32 บาท คาดผลงานยังทรงถึงปรับขึ้นเล็กน้อยในไตรมาส 3-4/68 รวมถึงมีแรงหนุนจากเลื่อนบันทึกค่าเสื่อมระบบ IT เป็นปีหน้าหนุนกำไรระยะสั้น แนวโนัมการบริโภคคาดทยอยฟื้น รวมถึงโอกาสเห็นมาตรการช้อปลดหย่อนภาษีออกมาเป็น Sentiment หนุน เล็งจ่าย Dividend Payout Ratio สูงขึ้นจากปัจจุบันที่ 45% คาดบริษัทมีกำไรส่วนเพิ่มจากธุรกิจนายหน้าประกัน เราคาดกำไรปี 68-70 โตเฉลี่ยราว 5%CAGR


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ