
นายมณเฑียร ยิ่งดำนุ่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการร่วมและประธานเจ้าหน้าที่สายงานพัฒนาธุรกิจ บมจ.ไซมิส แอสเสท [SA] กล่าวว่า บริษัทเดินหน้าขยายธุรกิจโรงแรมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเตรียมเปิดให้บริการโรงแรมใหม่ "CROWNE PLAZA Rama 9" ในไตรมาส 2/69 ภายใต้โครงการมิกซ์ยูส Landmark At MRTA Station ซึ่งตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ New CBD พระราม 9 ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้มเพียง 350 เมตร คาดว่าจะเป็นแลนด์มาร์กใหม่ที่ดึงดูดทั้งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการที่พักคุณภาพใจกลางเมือง
โรงแรม CROWNE PLAZA Rama 9 ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ "The Modern Business & Lifestyle Hub in Rama 9" เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองรุ่นใหม่และนักเดินทางที่มองหาที่พักครบวงจร รองรับทั้งการพักผ่อนและการทำงานด้วยห้องพักหลายรูปแบบ พื้นที่ประชุมสัมมนา ห้องอาหาร และฟิตเนสครบครัน เพื่อมอบประสบการณ์การเข้าพักเหนือระดับในย่านเศรษฐกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ
"บริษัทเดินหน้ารุกธุรกิจโรงแรมเต็มกำลัง เพื่อยกระดับศักยภาพการแข่งขันและขยายฐานลูกค้าครอบคลุมนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ เพื่อช่วยเสริมการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว และแนวโน้มครึ่งปีหลังถือว่าน่าจับตา เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว บวกกับแรงหนุนจากการเดินทางของนักธุรกิจและนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยบวกสนับสนุนให้ธุรกิจโรงแรมของ SA เติบโตแข็งแกร่ง และก้าวขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งเสาหลักใหม่ควบคู่กับธุรกิจอสังหาฯของบริษัทในอนาคต" คุณมณเฑียร กล่าวปัจจุบัน SA มีโรงแรมเปิดให้บริการแล้ว 954 ห้อง ภายใต้การดำเนินงานร่วมกับแบรนด์โรงแรมระดับโลก เช่น Wyndham, Ramada, TRIBE, Cassia ครอบคลุมทำเลศูนย์กลางธุรกิจและย่านท่องเที่ยวสำคัญ อาทิ ถนนสุขุมวิท, สุขุมวิท 39, สุขุมวิท 42, สุขุมวิท 48, สุขุมวิท 87 และพระราม 9 โดยมีอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) อยู่ที่ประมาณ 60%-65% แม้จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่ยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และอัตรากำไรขั้นต้น ประมาณ 49.8% ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมมีสัดส่วนรายได้กว่า 19% ของรายได้รวม และบริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจนี้
"การมีเครือโรงแรมระดับโลกในพอร์ตถือเป็นจุดแข็งสำคัญ ไม่เพียงสร้างความน่าเชื่อถือและมาตรฐานการบริการระดับสากล แต่ยังช่วยขยายฐานลูกค้าสู่ตลาดต่างประเทศ ผ่านเครือข่ายระบบสมาชิก (Loyalty Program) ที่เข้มแข็งของแต่ละแบรนด์ ส่งผลให้ SA สามารถดึงดูดลูกค้ากลุ่มพรีเมียมและนักเดินทางทั่วโลกได้มากขึ้น ถือเป็นการเสริมศักยภาพการแข่งขัน และวางรากฐานการเติบโตระยะยาวอย่างมั่นคง" นายมณเฑียร กล่าวบริษัทมีมูลค่าอสังหาฯในมือ (Backlog) กว่า 4 พันล้านบาท ทยอยรับรู้เป็นรายได้ต่อเนื่องในอนาคต พร้อมเดินหน้าขยายพอร์ตธุรกิจใหม่ๆ เช่น Health&Wellness , F&B, Rental Space, Living Solution, Property Service และ Finance & Investment เพื่อสร้างรายได้ประจำ (recurring income) และกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ เสริมศักยภาพการเติบโตในระยะยาว ตอกย้ำวิสัยทัศน์การเป็นผู้สร้างคุณค่าอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรภายใต้แนวคิด "Asset of Life"