88TH ปิดเทรดวันแรกที่ 8.20 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท (+50.46%) มูลค่าซื้อขาย 2,383.65 ล้านบาท จากราคาเปิด 12.00 บาท ราคาสูงสุด 12.30 บาท ราคาต่ำสุด 7.90 บาท
นางสาวนพรัตน์ มาลัยวงค์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริษัท บมจ. 88(ไทยแลนด์) [88TH] กล่าวว่า การเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันแรกในวันที่ 3 ตุลาคม 2568 เป็นก้าวสำคัญของ 88TH ที่เกิดจากความพยายามและความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เป็นกำลังสำคัญในการผลักดันให้บริษัทฯ สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้ง พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ ทีมงานทุกภาคส่วน และบริษัทย่อย บริษัท ดีโอเค สกิน จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบบครบวงจรภายใต้ตราสินค้าของลูกค้าด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้วยการวิจัยและพัฒนาคิดค้นสูตรเครื่องสำอางและนวัตกรรมใหม่ๆพร้อมกระบวนการผลิตที่ทันสมัยปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในด้านการผลิตและควบคุมคุณภาพสินค้าของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เราสามารถรักษามาตรฐานที่สูงที่สุดเพื่อตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าได้อย่างเต็มที่ส่งผลผู้บริโภคให้ความไว้วางใจสินค้าของเราตลอดมา มั่นใจว่าการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและสร้างแบรนด์คนไทยที่มีเอกลักษณ์ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
"บนเส้นทางการดำเนินธุรกิจกว่า 10 ปี ตอกย้ำถึงความสำเร็จจากความร่วมแรงร่วมใจ ความมุ่งมั่นและตั้งใจของทีม
นางณัฐฐินี ชวนะนิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ 88TH กล่าวว่า จุดเด่นของการดำเนินธุรกิจคือความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยคือกุญแจสำคัญที่ทำให้เราสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์และประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
โดยแผนการใช้เงินทุนจาก IPO จำนวน 213.625 ล้านบาทภายหลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายหลักทรัพย์
สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น 5 อันดับแรกภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้จำนวนไม่เกิน 59.5 ล้านหุ้นจะมีจำนวนหุ้นภายหลังการจำหน่ายหุ้นทั้งสิ้น 212.5 ล้านหุ้น ประกอบด้วย 1.นายล้ำพันธุ์ พรรธนประเทศ ถือหุ้น 32.67% 2.Ilkano Pte. Ltd. ถือหุ้น 8% 3. นางสาวนพรัตน์ มาลัยวงค์ ถือหุ้น 8% 4. นายธีรภัทร์ อิศรภักดี ถือหุ้น 4.80% และลำดับ 5.นายธีรภพ อิศรภักดี ถือหุ้น 4.80%
นายชนพัฒน์ ขาวอุบล กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน 88TH เปิดเผยว่า ผลประกอบการในปี 2565-2567 รายได้จากการขายและบริการรวมและกำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่องแบบมีนัยสำคัญ โดยมีรายได้รวม เท่ากับ 268.77 ล้านบาท
ด้านผลประกอบการ 6 เดือนแรก ปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการรวม 306.80 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและบริการรวม 210.79 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 96.01 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 45.55% ขณะที่กำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่องแบบก้าวกระโดด โดยมีกำไรสุทธิ 50.45 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 16.50 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 33.95 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นมากถึง 205.74% ซึ่งได้รับปัจจัยบวกในงวดหกเดือนแรกของปี 2568
นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัดในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนของ "88TH" ในครั้งนี้ จะยิ่งเสริมสร้างมูลค่า ภาพลักษณ์ที่ดีและศักยภาพการเป็นผู้นำเทรนด์สินค้าด้านสุขภาพและความงามครบคลุมตั้งแต่เวลาตื่นจนนอน ผู้ถือหุ้นเดิมล็อกหุ้น 100% พร้อมทั้งแสดงเจตจำนงค์ในการลงทุนร่วมกันในระยะยาว
ทั้งนี้โบรกเกอร์ 4 แห่ง ให้ราคาเป้าหมายปี 2569 อยู่ที่ 10-13 บาท ประกอบด้วย
บล. เอสบีไอ ไทยออนไลน์ จำกัด ประเมินราคาเหมาะสม หุ้นใหม่แกะกล่อง "88TH" อยู่ที่ 13.00 บาท คาดกำไรสุทธิ ปีนี้ และ 2569 เพิ่มขึ้น 83.5% YoY และ 33.5% YoY อยู่ที่ 102 ล้านบาท และ 137 ล้านบาท ตามลำดับสะท้อนจากความสำเร็จของการเติบโตของยอดขายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะแถมได้แรงหนุนจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินราคาเป้าหมายที่ 10 บาท คาดรายได้และกำไรสุทธิเติบโต 29% และ 41% CAGR ในช่วงปี 2568-2570 จากความแข็งแกร่งของกลุ่ม Hair Care การรับรู้รายได้เต็มปีจาก LYO Herbal และการออกสินค้าใหม่ในกลุ่ม Skincare และ Cosmetics แม้จะสูงกว่าค่าเฉลี่ยของคู่แข่งแต่สะท้อนศักยภาพการเติบโตและความแข็งแรงของแบรนด์ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแรงและแบรนด์ชั้นนำ 88TH อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการเติบโตระยะยาวในตลาดสุขภาพและและความงามของไทย
บล. บียอนด์ ประเมินราคาเหมาะสมของ 88TH ที่ราคา 11.70 บาท ด้วยวิธี DCF พร้อมการเติบโตเฉลี่ย 3 ปีที่ 40% CAGR คาดการเติบโตของ 88TH หลัง IPO บริษัทมีแผนนำเงินระดมทุนไปใช้ในการขยายฐานลูกค้าโดยเน้นกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ ด้วยแบรนด์ "LYO"ไปยังกลุ่มใหม่ๆเกี่ยวกับเส้นผมต่อยอดความสำเร็จจากผลิตภัณฑ์ Hair Color และ Hair Herbal
บล. ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ระบุว่า ได้ประเมินมูลค่าเหมาะสมสำหรับ 88TH ไว้ที่ ไว้ที่ 10.10 บาท คาดการณ์รายได้เติบโต CAGR 27% และกำไรสุทธิเติบโต CAGR 42% ระหว่างปี 2567-2570 โดยปัจจัยเติบโตของกำไรสุทธิหลักมาจากการขยายผลิตภัณฑ์เก่าและใหม่ รวมถึงลดค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่าย