
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ร่วมผลักดัน 3 มาตรการ Quick Win ให้สำเร็จภายใน 4 เดือน ซึ่งประกอบด้วย Individual Saving Account หรือโครงการ TISA , มาตรการดึงดูดผู้ประกอบการต่างประเทศที่ขอรับ BOI เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมาตรการปรับปรุงกฎเกณฑ์ยกระดับการกำกับดูแลกิจการ
มาตรการ Quick Win อยู่ภายใต้ชุดมาตรการ "สร้างเสน่ห์ตลาดหุ้นไทย" ที่ประกอบด้วย 4 มาตรการหลัก ได้แก่ Quality Demand Attractive Supply Trusted Market Supportive Ecosystem เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ลงทุน ยกระดับขีดความสามารถ และเพิ่มความน่าสนใจของตลาดทุนไทยในระดับสากล
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า จากความร่วมมือของหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น หากมาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาสอดคล้องและได้รับการสนับสนุนร่วมกนจากภาครัฐ เชื่อว่าจะสามารถเห็นรายละเอียดของมาตรการต่าง ๆ ที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะ TISA ที่จะเร่งให้เร็วขึ้นกว่าแผนเดิมที่คาดว่าจะเห็นความชัดเจนขั้นแรกปลายปี 69
ขณะเดียวกันมาตรการ Quick win ของสำนักงาน ก.ล.ต. คือ การปรับปรุงกฎหมายยกระดับการกำกับดูแลกิจการและมาตรการบังคับใช้ แม้บางเกณฑ์จะไม่สามารถบังคับใช้ได้ภายใน 4 เดือน แต่ที่ผ่านมา ก.ล.ต.ได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นเพื่อปรับปรุงแนวทางหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งจะมีผลผ่านแผนการดำเนินงานที่จะผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการ ก.ล.ต.ช่วงต้นเดือน ธ.ค. และสื่อสารออกสู่สาธารณะได้ต้นเดือน ม.ค.69
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ FETCO กล่าวว่า โครงการ TISA เป็นการปฏิรูปการออมครั้งใหญ่ของประเทศ จากที่ผ่านมาเคยมีกองทุน LTF และ RMF เป็นหลัก แต่ยังไม่มีการนำการออมเหล่านั้นมาอยู่ในกรอบเดียวกัน จึงต้องการเสนอให้รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ภายใต้ TISA ภายใต้ 3 หัวข้อสำคัญ ได้แก่ การออมเพื่อการเกษียณ การออมเพื่อการลงทุนส่วนบุคคล และการลงทุนเพื่อผู้เยาว์ คือการที่ผู้ปกครองออมเงินเพื่อบุตร และได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งเป็นส่วนใหม่ที่ต้องการเสนอกระทรวงการคลัง
"ใน 4 เดือน ที่เราอยากเห็นคือ TISA การดึงดูดบริษัทต่างประเทศขอ BOI เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และการแก้ไขกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เราคิดว่าสำคัญ พวกนี้คือเรื่องที่เราคิดว่าหากดำเนินการไปแล้วน่าจะเป็นการเปิดประตูการเปลี่ยนแปลงระยะยาว "นายกอบศักดิ์ กล่าวนอกจากนี้ มาตรการ Quick Win ยังรวมถึงการผลักดันยกระดับหุ้น IPO เพื่อดึงดูดบริษัทอุตสาหกรรมใหม่ ๆ เข้ามาระดมทุนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบริษัทต่างประเทศที่ได้รับ BOI สนใจลงทุนสร้างโรงงานและทำ R&D ในไทย รวมถึงต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งเป็นกลุ่ม New Sector จึงต้องปลดล็อกกระบวนการ IPO สำหรับกลุ่มดังกล่าว โดยอาจให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติม คาดว่าจะดำเนินการได้ภายใน 4 เดือน ซึ่งขณะนี้มี 2-3 บริษัทที่เป็น New S-curve สามารถนำร่องโครงการได้เป็นลำดับแรก ๆ
ทั้งนี้ คณะทำงานเพื่อพิจารณามาตรการปฏิรูปตลาดทุนไทย (Taskforce) ได้ส่งหนังสือเพื่อนัดพูดคุยเกี่ยวกับแผนและมาตรการตลาดทุน รวมทั้งการขยายระยะเวลากองทุน SSF อีกด้วย เนื่องจากพบว่ามีนักลงทุนบางส่วนโดยเฉพาะกลุ่มผู้ลงทุนอายุน้อยที่เลือกลงทุนกองทุน SSF ซึ่งมองว่าเป็นการสร้างวินัยการลงทุนและวัฒนธรรมในการออม
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า มาตรการ Quick win ของ ตลท. คือโครงการ Jump+ ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) เข้าร่วมโครงการอย่างเป็นทางการแล้ว 61 บริษัท และคาดว่าจะมี บจ.เพิ่มขึ้นอีก คาดหวังให้ บจ.ขนาดใหญ่เข้าร่วมโครงการ โดยในปลายปีหรือช่วงต้นปีหน้าก็จะมีการสื่อสารแผนงานภายใต้ Jump+ ของแต่ละบริษัทเพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับนักลงทุนและตลาดทุนไทยเพิ่มขึ้น
สำหรับ 4 มาตรการหลัก พร้อมแผนการดำเนินการที่สำคัญเร่งด่วนในแต่ละมาตรการ
Quality Demand ประกอบด้วย (1) การสร้างวัฒนธรรมการลงทุนระยะยาวผ่านบัญชีการลงทุนส่วนบุคคล (Individual Investment Account) เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเปลี่ยนเงินออมเป็นเงินลงทุนระยะยาวและกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย มีการขยายฐานผู้ลงทุนกลุ่มใหม่ เพิ่มการให้บริการการลงทุนในตลาดหุ้นและผลิตภัณฑ์ของบริษัทหลักทรัพย์ รวมถึงสร้างศูนย์รวมข้อมูลพอร์ตของผู้ลงทุน (wealth aggregator) และ (2) การส่งเสริมบทบาทผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ เพื่อเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตลาดทุนไทย
Attractive Supply ประกอบด้วย (1) การดึงดูดกิจการที่มีศักยภาพและคุณภาพเข้าสู่ตลาดทุนไทย (2) การยกระดับคุณภาพของบริษัทจดทะเบียนในปัจจุบัน ผ่านโครงการ Jump+ และ Value Up Program (3) การปรับขั้นตอนการออกและเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ให้มีประสิทธิภาพและทำให้ตลาดทุนไทยเป็นที่น่าสนใจและสามารถแข่งขันในระดับภูมิภาคได้ (4) การปรับปรุงเกณฑ์การเข้าถึงแหล่งระดมทุนของ SMEs และ New Economy ให้น่าสนใจ และ (5) การเปิดเผยข้อมูล ESG ตามมาตรฐาน ISSB และมุ่งผลให้เกิดการปฏิบัติจริง เพื่อดึงดูดผู้ลงทุนที่คำนึงถึงความรับผิดชอบด้าน ESG ในระดับสากล
Trusted Market ประกอบด้วย (1) การสร้างความเข้มแข็งในการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนและการบังคับใช้กฎหมาย (2) การยกระดับการกำกับดูแลผู้ประกอบวิชาชีพในตลาดทุน (gatekeepers) เพื่อป้องปรามการกระทำที่ไม่เหมาะสม และ (3) การใช้เทคโนโลยีเพิ่มช่องทางเข้าถึงข้อมูลทางการเงินของบริษัทขนาดกลางและเล็ก
Supportive Ecosystem ประกอบด้วย (1) การเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุนในการสร้างผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย (2) นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มการเข้าถึงการลงทุนของผู้ลงทุนรายย่อยและเปลี่ยนผ่านตลาดทุนสู่ตลาดทุนดิจิทัล (3) ทบทวนหลักเกณฑ์การซื้อขายให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ลงทุน และ (4) การให้ผู้ลงทุนต่างประเทศสามารถใช้สิทธิ e-proxy ได้สะดวกยิ่งขึ้น
นางพรอนงค์ กล่าวว่า ชุดมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดหุ้นไทยที่เสนอโดยคณะทำงาน Taskforce ครอบคลุมทั้งฝั่งอุปสงค์และอุปทาน ซึ่งจะมีการตั้งคณะทำงานย่อย (Working Group) ในการติดตามและผลักดันมาตรการต่อเนื่อง เพื่อเร่งขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในระยะสั้น พร้อมกันนี้ ในระยะถัดไป ก.ล.ต. จะเดินหน้าพัฒนาตลาดทุนในส่วนอื่น ทั้งตลาดตราสารหนี้ หน่วยลงทุน ตลอดจนการเปลี่ยนผ่านตลาดทุนสู่ตลาดทุนดิจิทัล โดยจะมีการจัดตั้งคณะทำงานชุดอื่นเพิ่มเติมต่อไป ซึ่ง ก.ล.ต. พร้อมทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญในการสร้างความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ