(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์อัพรอรับ"คนละครึ่งพลัส"หนุนหุ้น Domestic

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 7, 2025 09:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีรวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์อัพ โดยที่ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้จะพิจารณาโครงการ "คนละครึ่งพลัส" วงเงินราว 4.4 หมื่นล้านบาท อาจเป็นปัจจัยหนุนหุ้นอิงกับการบริโภคในประเทศได้ และช่วยหนุนต่อภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้

ด้านต่างประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่ การ Shutdown ของหน่วยงานราชการสหรัฐก็ยังมีต่อเนื่อง ทำให้ยังไม่มีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมา ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาเคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน

ให้แนวต้าน 1,300 จุด แนวรับ 1,280 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (6 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,694.97 จุด ลดลง 63.31 จุด หรือ -0.14%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,740.28 จุด เพิ่มขึ้น 24.49 จุด หรือ +0.36% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,941.67 จุด เพิ่มขึ้น 161.16 จุด หรือ +0.71%

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดที่ระดับ 48,281.12 จุด เพิ่มขึ้น 336.36 จุด หรือ +0.70% ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดทำการเนื่องในวันชาติ และตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำเนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (6 ต.ค.) 1,285.64 จุด ลดลง 7.97 จุด (-0.62%) มูลค่าซื้อขาย 33,100.46 ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (6 ต.ค.) 1,393.73 ล้านบาท

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. (6 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ หรือ 1.33% ปิดที่ 61.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 ต.ค.) อยู่ที่ 0.66 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 32.48 อ่อนค่าเล็กน้อย ตลาดไร้ปัจจัยใหม่ คาดกรอบวันนี้ 32.35-32.60

- "เอกนิติ" ชง ครม.เคาะ คนละครึ่งพลัส อนุมัติ 4.4 หมื่นล้าน ประชาชนรับ 20 ล้านสิทธิ์ ลงทะเบียน 20 ต.ค. กระตุ้นใช้จ่าย 2 เดือนสุดท้ายปีนี้ เพิ่ม จีดีพี 0.3-0.4% เดินหน้านโยบายเศรษฐกิจ 5 เสาหลัก ฟื้นความเชื่อมั่นความน่าเชื่อถือประเทศ ไม่ขยายเพดานหนี้สาธารณะเกิน 70% "ศุภจี" ย้ำพาณิชย์ดูแลราคาสินค้าเกษตร ลดค่าครองชีพประชาชน เร่งขยายตลาดส่งออกข้าว

- "เฟทโก้" จ่อส่งหนังสือหารือ "กระทรวงพาณิชย์" เพื่อเสนอปลดล็อกกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเปิดต่างชาติที่ได้รับสิทธิพิเศษ จากบีโอไอเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นไทยง่ายขึ้น หวังพลิก "จีดีพี" เติบโตแกร่งระดับ 3% ภายในปี 71 ด้านทีม Taskforce "สศค.-กลต.-ตลท.-เฟทโก้" เปิด "4 มาตรการเสริมเสน่ห์ตลาดทุนไทย" พร้อมเดินหน้าถก "รมว.คลัง" เคาะแผนงานเร่งด่วนเป็นรูปธรรม

- บีโอไออนุมัติส่งเสริมการลงทุน "โฮม่า" (Homa) ผู้ส่งออกตู้เย็นอันดับ 1 ของจีน เดินหน้าตั้งฐานการผลิตในไทย ทุ่มงบก้อนแรก 3,000 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตตู้เย็นอัจฉริยะและตู้แช่เย็น เตรียมจ้างงานคนไทย 3,000 คน เพิ่มการซื้อชิ้นส่วนในประเทศเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะไทย รองรับตลาดโลกที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด

- ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทย เดือน ก.ย.2568 เท่ากับ 100.11 ลดลง 0.72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเป็นการลดลงต่อเนื่อง 6 เดือนติด นับจากเดือน เม.ย.68 โดยมีสาเหตุหลักมาจากราคาสินค้ากลุ่มพลังงานลดลง ทั้งค่ากระแสไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงตามราคาพลังงานโลกและนโยบายรัฐบาล ขณะที่สินค้ากลุ่มอาหารยังคงลดลง โดยเฉพาะไข่ไก่ ผักสด และผลไม้สด โดยเงินเฟ้อรวม 9 เดือนของปี 68 (ม.ค.-ก.ย.) เพิ่มขึ้น 0.01%

- ส.อ.ท.แนะรัฐเร่งปฏิรูปกฎหมาย ยกระดับขีดความสามารถ เปิดผลโพลเอกชนชี้ไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันระดับกลาง ลั่นปัญหากฎหมายที่ล้าสมัยและการปฏิรูประบบราชการที่ยังไม่จริงจังถือเป็นจุดอ่อน

*หุ้นเด่นวันนี้

- บมจ.ออนเซ็น รีทรีต แอนด์ สปา กรุ๊ป (ONSENS) ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันนี้ โดยประกอบธุรกิจให้บริการออนเซ็นและสปาเพื่อสุขภาพภายใต้ 2 แบรนด์ ได้แก่ "ยูโนะโมริ ออนเซ็น แอนด์ สปา" (Yunomori) และ "คลาย สปา" (KLAI) ราคา IPO ที่ 2.05 บาท/หุ้น คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 164 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 615 ล้านบาท

- PTTEP (แลนด์แอนด์เฮ้าส์) "ซื้อ" ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ที่ 137 บาท แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/68 แข็งแกร่ง กลับมาเพิ่มขึ้น และกำไรไตรมาส 4/68 จะยิ่งสูงขึ้นอีกและเป็นจุดสูงสุดของปี อัตราจ่ายเงินปันผลสูง คาดจ่าย 8.75 บ./หุ้น คิดเป็น D/P ราว 7.7% ประเมินราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ที่ 137 บ. เทียบเท่า FY68F P/E=7.4x

- KCE (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 27.00 บาท มองเชิงบวกจากแนวโน้มกำไรฟื้นตัวใน H2/68 แนวโน้มไตรมาส 3/68 เป็นบวกหลังกำไรถูกกดดันจากค่าใช้จ่ายครั้งเดียวหลายรายการ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายทางกฎหมายและการรวมสำนักงานขายในอังกฤษและเยอรมนี อุปสงค์ที่อ่อนลงจากความกังวลภาษีสหรัฐฯ และบาทแข็งค่า การซื้อกิจการสำนักงานขายสองแห่งยังทำให้ต้องตัดสินค้าคงเหลือทางบัญชีส่งผลให้การรับรู้รายได้ล่าช้าราว 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ/ไตรมาส ใน 1H25 เราคาดว่าผลกระทบเหล่านี้จะหมดไปในไตรมาส 2/68 ซึ่งจะหนุนกำไรราว 30-40 ลบ. นอกจากนี้ยังมี upside จากปริมาณคำสั่งซื้อที่สูงขึ้นซึ่งจะช่วยเพิ่มการใช้กำลังการผลิตราว 5% และเพิ่ม GPM

- CENTEL (เคจีไอ) เป้าพื้นฐาน 37.5 บาท ประเมินธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารฟื้นเด่นในไตรมาส 3/68 และอเนื่องใน High season ไตรมาส 4/68 โดย "รายได้ต่อห้องพักที่พร้อมให้บริการ" (RevPar) เดือน ก.ค.-ส.ค. ฟื้นตัวแรง QoQ ทั้งในไทยและที่มัลดีฟส์ ขณะที่อัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของธุรกิจร้านอาหารฟื้น +3% YoY (จาก -3% YoY ใน 2Q68) และคาดหวังการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวช่วงปลายปี ไตรมาส 4/68 ส่วน Valuation ไม่แพง PBV 1.95 เท่า (-1.5 SD)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ