นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นตัวแทน 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ สมาคมอาคารชุดไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ และสมาคมบ้านจัดสรร ได้เตรียม 6 ข้อเสนอในการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ และต่อเนื่องในปีหน้า ซึ่งถือเป็น "ยาแรง" ในการที่จะอัดฉีดเข้าไปฟื้นอสังหาริมทรัพย์ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้ เนื่องจากภาคอสังหาฯ เป็นเครื่องยนต์สำคัญอันดับ 2 ของเศรษฐกิจไทย เพราะคิดเป็น 8-12% ของจีดีพี รองจากการท่องเที่ยว
ทั้ง 3 สมาคมฯจะร่วมกันยื่นข้อเสนอ 6 ประการต่อรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล เพื่อใช้เป็นมาตรการเร่งด่วนกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แก่
1. ยกเว้นค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนอง โดยเสนอให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมโอนและค่าจดจำนองสำหรับที่อยู่อาศัยในทุกระดับราคา โดยกำหนดวงเงินให้เท่ากับบ้านราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท สำหรับส่วนเกินจากนั้นให้เก็บตามอัตราปกติ และขยายเวลาจนถึง 30 มิ.ย. 69
2. จัดตั้งโครงการค้ำประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัย โดยการขยายบทบาทของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เพื่อช่วยค้ำประกันสินเชื่อบางส่วนให้กับกลุ่มผู้กู้รายย่อย อาชีพอิสระ หรือผู้ที่ถูกธนาคารปฏิเสธสินเชื่อ
3. ดอกเบี้ยตามความเสี่ยง (Risk-Based Pricing) เปิดทางให้สถาบันการเงินสามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยตามระดับความเสี่ยงของผู้กู้ได้ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น
4. ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 50% เป็นเวลา 12 ปี เพื่อช่วยลดภาระต้นทุนให้กับผู้ประกอบการและกระตุ้นการถือครองที่อยู่อาศัย
5. แก้หนี้นอกระบบด้วยแนวทาง Warehouse Debt นำมูลหนี้จากสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ชำระแล้วบางส่วนมารีไฟแนนซ์หนี้นอกระบบหรือหนี้ดอกเบี้ยสูง เพื่อช่วยลดภาระดอกเบี้ยและฟื้นกำลังซื้อในระบบ
6. ลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.5% เหลือ 1% โดยเร็ว เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจผ่านต้นทุนสินเชื่อที่ถูกลง
"รัฐบาลต้องมองภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นมากกว่าธุรกิจ มันคือกลไกฟื้นเศรษฐกิจที่รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพที่สุดในช่วงเปลี่ยนผ่าน แม้จะระยเวลาสั้นๆในช่วงนี้ แต่ก็เป็นภาคส่วนที่สำคัญ" นายประเสริฐ กล่าวอย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการที่รัฐบาลจะสนับสนุนภาคอสังหาฯ ในช่วงระยะเวลที่สั้นเพียง 4 เดือน อาจจะเป็นเรื่องรองจากการดูแลปากท้องของประชาชน แต่ทั้ง 3 สมาคมฯก็มีความคาดหวังในการที่รัฐบาลจะหันมากระตุ้นภาคอสังหาฯ บ้าง แม้ในระยะเวลาสั้นๆ ก็ตาม เพราะภาคอสังหาฯ เป็นส่วนที่มีความเกี่ยวข้องกับหลายๆ ธุรกิจในห่วงโซ่ของระบบเศรษฐกิจ และเป็นดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นผู้บริโภคและความมั่นใจต่อเศรษฐกิจไทย
ขณะที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ผ่านมาล่าสุดที่มีมติคงดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม ทางผู้ประกอบการภาคอสังหาฯ ยังมีความคาดหวังในการประชุมครั้งต่อไปจะมีโอกาสลดดอกเบี้ยได้ เนื่องจากครั้งที่ผ่านมา กนง.เสียงแตกเป็น 5:2 ทำให้ยังพอมีโอกาสลุ้น และคาดหวังว่าธนาคารพาณิชย์จะลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงในอัตราเดียวกับกนง.เหมือนครั้งก่อน ๆ เพราะจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดอสังหาฯ และผู้กู้ซื้อบ้านทุกคน
ส่วนภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 3/68 จะเห็นว่าโครงการใหม่เริ่มกลับมาทำยอดขายได้ โดยเฉพาะโครงการที่ปรับราคาย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วในบางแห่ง เรียกว่าเป็นโครงการใหม่แต่ราคาย้อนยุค แม้ยอมรับว่าตลาดในระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทยังค่อนข้างเหนื่อย เพราะธนาคารพาณิชย์เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อกลุ่มนี้ค่อนข้างมาก จากปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง และความสามารถในการชำระหนี้ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจผันผวน แต่กับตลาดระดับบนยังแข่งขันกันอย่างเข้มข้น ทำให้ภาพของตลาดส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้ฟื้นขึ้นอย่างก้าวกระโดด
นายองคฤทธิ์ พรหมโยธี ประธานจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48 ในวันที่ 30 ต.ค.-2 พ.ย.68 กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ไม่เพียงเป็นเวทีแสดงสินค้าด้านที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นสนามนโยบายที่ภาคอสังหาฯ จะจับตาทิศทางการทำงานของรัฐบาลใหม่ว่าจะขับเคลื่อนมาตรการเศรษฐกิจใดเป็นแรงส่งสำคัญในปี 69
โดยปีนี้เป็นความท้าทายคือการส่งไม้ต่อจากครั้งความสำเร็จที่ผ่านมาจากการสร้างยอดขายสูงสุดในประวัติการณ์กว่า 2 หมื่นล้านบาทมาแล้ว ดังนั้นครั้งนี้จึงวางกลยุทธ์และเป้าหมายจัดงานภายใต้แนวคิด "New Marketplaces, Serve Supply on Every Demand" และกลยุทธ์ "Fast Track ทางด่วนของคนอยากมีบ้าน" ที่ออกแบบขั้นตอนซื้อบ้านหรือคอนโดให้สะดวก ง่าย รวดเร็ว และตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค
"หัวใจสำคัญของการจัดงานปีนี้คือ การเชื่อมโยงดีมานด์ของผู้บริโภคกับซัพพลายคุณภาพจากผู้ประกอบการในจังหวะที่ตลาดกำลังรอฟังทิศทางนโยบายรัฐ โดยงานนี้ไม่เพียงดึงดูดผู้ซื้อบ้านครั้งแรก แต่ยังตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการอัพเกรดที่อยู่อาศัย และยังดึงนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งในครั้งนี้ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการสะท้อนแรงส่งตลาด โดยพื้นที่บูธมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48 ได้รับการตอบรับอย่างร้อนแรงจากผู้ประกอบการรายใหญ่และแบรนด์ชั้นนำ จนสามารถจำหน่ายพื้นที่บูธได้เต็ม 100% ก่อนงานเริ่ม ซึ่งถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่า ภาคเอกชนมั่นใจในพลังการซื้อขายช่วงปลายปี 68" นายองคฤทธิ์ กล่าว