HILITE: โบรกชี้สถาบันฮ่องกงยัง underweight หุ้นไทยแต่เล็งหาช่องสลงทุนรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 20, 2025 15:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า เมื่อวันที่ 15-17 ต.ค.68 ได้เดินทางไปพบกับลูกค้านักลงทุนสถาบันในฮ่องกง เพื่ออัพเดทสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทย โดยนักลงทุนกลุ่มนี้ยังระมัดระวังการลงทุนในตลาดหุ้นไทย และส่วนใหญ่ยัง Underweight หุ้นไทย

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนฮ่องกงเชื่อว่าการเมืองไทยจะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วงสองสามเดือนข้างหน้า โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ประกาศจะยุบสภาภายในเดือน ม.ค.69 ฝ่ายวิเคราะห์ฯจึงเชื่อว่าไทยจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 29 มี.ค.69 และรัฐบาลใหม่น่าจะเริ่มทำงานช่วงปลายเดือนพ.ค.69 ซึ่งในขณะนี้ยังไม่แน่นอนว่าใครจะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่หลังการเลือกตั้ง

ลูกค้าสถาบันในฮ่องกงกำลังมองหาโอกาสลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มที่เชื่อว่าจะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น โครงการคนละครึ่ง, มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการที่รัฐอาจนำมาใช้กระตุ้นการใช้จ่ายช่วงเทศกาลในเดือนธ.ค.68

ขณะที่ฝ่ายวิเคราะห์ฯเชื่อว่า บริษัทที่น่าจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์หลักจากมาตรการของรัฐ ได้แก่ CPN แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 74.50 บาท, CENTEL แนะนำ "ถือ" ที่ราคาเป้าหมาย 31 บาท, ERW แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 3.10 บาท, KTC แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 31.0 บาท, MTC แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 54.0 บาท และ MOSHI แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 47.75 บาท

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI คาดว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 25bp เป็น 1.25% ในการประชุมวันที่ 17 ธ.ค.68 และอาจปรับลดอีกสองครั้งเป็น 0.75% ภายในปี 69 ซึ่งน่าจะช่วยหนุนตลาดหุ้นไทยได้ โดยเชื่อว่าผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคอย่างเช่น MTC และ KTC จะได้ประโยชน์มากที่สุดจากการปรับลดดอกเบี้ย แต่ธนาคารน่าจะยังมีมาร์จินลดลง

ขณะเดียวกันมองว่าผู้ค้าปลีกอย่าง BJC แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 22.0 บาท และ CPN จะได้รับประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีสำหรับค่าซื้อสินค้า ส่วนในระยะยาวเชื่อว่ากลุ่มการแพทย์ยังมีมูลค่าน่าสนใจ โดย Top pick ในกลุ่มการแพทย์ได้แก่ BDMS แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 28.50 บาท และ PR9 แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI มองว่า แม้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ อาจช่วยกระตุ้นการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย แต่เชื่อว่าปัจจัยบวกดังกล่าวน่าจะสะท้อนในราคาหุ้นแล้ว ดังนั้น การเลือกหุ้นลงทุนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้พอร์ต outperform ขณะเดียวกันมองว่า downside risk จะมาจากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่อาจเพิ่มขึ้น หากพรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจและ/หรือยื่นคำร้องต่อศาล รวมทั้งหากเกิดเหตุปะทะระหว่างไทยและกัมพูชาขึ้นอีก ดังนั้น จึงคาดดัชนี SET สิ้นปี 68 อยู่ที่ 1,155 จุด ซึ่งจะเท่ากับ P/E 13.2 เท่าในปี 69 หรือ -1SD จากค่าเฉลี่ย 10 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ