(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งขึ้นตามตปท.คลายกังวลเทรดวอร์-ชัตดาวน์ใกล้จบ จับตาครม.เคาะกระตุ้นท่องเที่ยว

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 21, 2025 09:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีเคลื่อนไหวไซด์เวย์อัพ โดยได้แรงหนุนจาก Sentiment บวกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนลดลง แม้สหรัฐฯขู่เรียกเก็บภาษีศุลกากร 100% ต่อสินค้านำเข้าจีน แต่ยังคาดหวังการหารือระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ในสัปดาห์หน้าจะมีผลลัพธ์เชิงบวก

ขณะที่สถานการณ์ชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติระบุมีโอกาสจะสิ้นสุดในสัปดาห์นี้ ประกอบกับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในตลาดสหรัฐฯ ยังออกมาดีกว่าคาด ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนเป็นบวกต่อตลาดหุ้นภูมิภาคและตลาดหุ้นไทยได้

สำหรับปัจจัยในประเทศติดตามความคืบหน้ามาตรการ Quick Big Win ของรัฐบาลเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น หลังกระแส

โครงการคนละครึ่งพลัสลงทะเบียนครบ 20 ล้านสิทธิเรียบร้อย และรัฐบาลเปิดเผยว่าอาจมีการพิจารณาเฟส 2 ด้วย

ส่วนในวันนี้แนะติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดจะมีการเห็นชอบมาตรการท่องเที่ยวเพิ่มเติม

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนวันนี้เลือก TTB หลังเมื่อวาน KKP รายงานงบดีกว่าคาดจากขาดทุนรถยึดลดลง โดย TTB มีสินเชื่อรถยนต์ประมาณ 29% น่าจะได้ Sentiment บวกจากปัจจัยดังกล่าว และเลือก PR9 จากธีม Earning play

โดยให้กรอบแนวรับ 1,280 จุด และแนวต้าน 1,300 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (20 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,706.58 จุด เพิ่มขึ้น 515.97 จุด หรือ +1.12%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,735.13 จุด เพิ่มขึ้น 71.12 จุด หรือ +1.07% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,990.54 จุด เพิ่มขึ้น 310.57 จุด หรือ +1.37%

- ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าเปิดบวก ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ระดับ 49,675.43 จุด เพิ่มขึ้น 489.93 จุด หรือ +1.00%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 26,160.24 จุด เพิ่มขึ้น 301.41 จุด หรือ +1.17% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,870.75 จุด เพิ่มขึ้น 6.86 จุด หรือ +0.18%

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 ต.ค.) 1,284.47 จุด เพิ่มขึ้น 9.86 จุด (+0.77%) มูลค่าซื้อขาย 26,555.65 ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติซื้อทธิ (20 ต.ค.) 88.84 ล้านบาท

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. (20 ต.ค.) ลดลง 2 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 57.52 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 ต.ค.) อยู่ที่ 2.32 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 32.52 แข็งค่าสุดในภูมิภาค ตลาดจับตาเอกชนถกผู้ว่าแบงก์ชาติแก้บาทแข็ง

- ปิดจ๊อบ "คนละครึ่งพลัส" ประชาชนลงทะเบียนวันแรกครบสิทธิ 20 ล้านราย ใน 10 ชั่วโมง "คลัง" จ่อขยาย สิทธิเพิ่ม เริ่มใช้วันแรก 29 ต.ค.นี้ "ครม.เศรษฐกิจ" เคาะ 3 มาตรการพลังงาน Quick Big Win ลดค่าครองชีพประชาชนสร้างผลประโยชน์ทางการเงินและเศรษฐกิจ 1.4 ล้านล้านบาท ดันเข้า ครม.สัปดาห์หน้า

- ธปท.เดินสายหารือภาคเอกชน รับฟังความเห็นสถานการณ์เศรษฐกิจ "หอการค้า" เสนอแก้ปัญหาบาทแข็ง ขอแยกบัญชีเทรดเงิน คริปโตเคอเรนซี ทองคำ พร้อมหาแนวทางประกันความเสี่ยงชำระเงินเพื่อส่งออกไปตลาดใหม่ ส.อ.ท.เสนอแก้ค่าเงินหวังฟื้นกำลังส่งออกไทย มอง GDP ไทยสิ้นปีนี้โตไม่เกิน 2% จากแรงกดดัน ปัจจัยลบรุมเร้า

- ททท. เร่งกระตุ้นการใช้จ่ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินหน้าโปรเจกต์ "Amazing Thailand Passport Privileges" ควงพันธมิตรอัดฉีดสิทธิพิเศษกระตุ้นเศรษฐกิจ ดันรายได้ ท่องเที่ยวไทยไฮซีซัน

- YLG ประเมินราคาทองคำยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 2 ปี จากแรงซื้อธนาคารกลาง ความกังวลเงินเฟ้อ และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ อ้างสถิติช่วงปรับลดดอกเบี้ยของเฟด ราคาทองคำเฉลี่ยปรับขึ้น 32% ใน 2 ปี ล่าสุดรอบปี 2567 ราคาทองปรับขึ้นแล้ว 64% คาดทองคำโลกแตะ 4,435-4,900 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ และทองคำในประเทศอยู่ที่ 68,500-75,700 บาทต่อบาททองคำ

- จับตา! การประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน 20-23 ตุลาคมนี้ ประกาศแผนอัดฉีดเศรษฐกิจ 2.5 ล้านล้านบาท พร้อมเปิดยุทธศาสตร์ 5 ปี มุ่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และปั้นนวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงเต็มสูบ

- กบน. ลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลง 50 สตางค์ต่อลิตร และเบนซินลง 30 สตางค์ต่อลิตร มีผลวันนี้ทันที เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชน ตามนโยบาย Quick Big Win ขณะที่ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ยังติดลบ 14,754 ล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

- ADVANC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมายเฉลี่ย IAA consensus 335.72 บาท ประเมินกำไรปกติไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 1.13 หมื่นลบ. +3% q-q, +29% y-y หนุนจากทั้งรายได้รวมยังเห็นการขยายตัว q-q และ y-y ทั้งกลุ่ม Mobile และ Fixed Broadband แรงหนุนจาก cross-and up-sales content และ net add เพิ่มขึ้น บวกกับการประหยัดต้นทุนจากประมูลคลื่น 2100 MHz เริ่มรับรู้ ส.ค.68 แนวโน้มกำไรจะยังเป็นขาขึ้นต่อเนื่องในปีหน้า จากภาพการแข่งขันที่ไม่รุนแรงและเอื้อต่อการทำกำไร Consensus คาดกำไรปี 68 ที่ 4.28 หมื่นลบ. +22% y-y และปี 2569 ที่ 4.6 หมื่นลบ +8% y-y

- CPN (พาย) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 80.00 บาท ภาพรวมในช่วง H2/68 เบื้องต้นคาดมีโอกาสเห็นการฟื้นตัวทุกธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จะมีการเปิดโครงการใหม่เพิ่มและการเร่งโอนคอนโดใหม่เข้ามา ขณะที่ธุรกิจศูนย์การค้าได้รับผลดีจากการเปิดโครงการเซ็นทรัล พาร์ค และกระบี่ ที่มีกำหนดเปิดในช่วง เดือน ก.ย. และ ต.ค. ตามลำดับ

- SHR (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 2.13 บาท เรามีมุมมองเชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว ลดหย่อนค่าใช้จ่ายสูงสุด 20,000 บาท ขณะเดียวกันคาดกำไรจากผลประกอบการหลักในไตรมาส 3/68 ที่ 149 ลบ.เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 11 ลบ.ในไตรมาส 2/58 และพลิกกลับมามีกำไรจากขาดทุนปกติ 7 ลบ.ในไตรมาส 3/67 ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง QoQ ได้แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลที่ทำให้อัตรารายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPar) ของทั้งเอาท์ทริกเกอร์ และพอร์ตโรงแรมในอังกฤษดีขึ้น ขณะเดียวกัน การฟื้นตัวของผลประกอบการ YoY มาจากโรงแรมในประเทศไทยแข็งแกร่งขึ้น และไม่มีผลขาดทุนจาก โซ มัลดีฟส์ มูลค่า 60 ลบ.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ