(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ อาจมีแรงซื้อกลุ่มแบงก์หนุน จับตาเงินเฟ้อ,เจรจาการค้าจีน-สหรัฐฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 22, 2025 09:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีรวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอ

สเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ หลังจากปรับตัวขึ้นมาพอสมควร แต่อาจจะยังมีปัจจัยหนุนดัชนีได้จากหุ้นกลุ่มแบงก์ที่รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/68 ออกมาดีกว่าคาด ทำให้อาจจะยังมีแรงซื้อเข้ามาหนุนดัชนีได้

อย่างไรก็ตามตลาดยังคงรอการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) เดือนก.ย.ของสหรัฐในคืนวันศุกร์ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร และติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะมีความชัดเจนออกมาอย่างไร ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเช้านี้เปิดมาเคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน

โดยให้แนวต้าน 1,300 จุด แนวรับ 1,280 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (21 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,924.74 จุด เพิ่มขึ้น 218.16 จุด หรือ +0.47%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,735.35 จุด เพิ่มขึ้น 0.22 จุด หรือ +0.003% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,953.67 จุด ลดลง 36.88 จุด หรือ -0.16%

- ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าเปิดบวก ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ระดับ 49,252.03 จุด ลดลง 64.03 จุด หรือ -0.13%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,897.62 จุด ลดลง 129.93 จุด หรือ -0.50% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,896.07 จุด ลดลง 20.26 จุด หรือ -0.51%

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 ต.ค.) 1,290.72 จุด เพิ่มขึ้น 6.25 จุด (+0.49%) มูลค่าซื้อขาย 34,370.82 ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (21 ต.ค.) 1,341.60 ล้านบาท

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. (21 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.52% ปิดที่ 57.82 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 ต.ค.) อยู่ที่ 3.04 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 32.81 อ่อนค่าสุดในภูมิภาค คาดกรอบวันนี้ 32.75-33.00

- ผู้ว่าการ ธปท. "วิทัย รัตนากร" เยือน ส.อ.ท.หารือแนวทางส่งเสริมอุตสาหกรรมพร้อมดูแลเสถียรภาพการเงิน ชง 7 ข้อเสนอบรรเทาพิษบาทแข็ง-ผลกระทบภาษีทรัมป์-ช่วยเอสเอ็มอี ชี้บาทแข็งมาจากหลายปัจจัย อาจเกี่ยวข้องฟอกเงิน-ทองพุ่ง ต้องแก้ปัญหาแบบบูรณาการ ร่วมมือทั้ง ปปง. กรมศุลฯ พาณิชย์ "เกรียงไกร" วอนแก้ปัญหาปล่อยสินเชื่อให้เห็นผลภายใน 4 เดือนรัฐบาล

- รัฐบาลจัดทันทีคนละครึ่งพลัสเฟส 2 หลังเฟสแรกหมดภายใน 10 ชั่วโมง คลังคาดเริ่มได้เดือนมกราคม 2569 ให้สิทธิเฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนไม่ทันเท่านั้น คาดใช้งบฯเท่าเดิม 4.4 หมื่นล้านบาท สมาคมผู้ค้าปลีกไทยมั่นใจช่วยดันยอดขายค้าปลีกรวมโตเกิน 10% ส่วนเฟส 2 อยากให้ร้านทุกขนาดเข้าร่วมได้ พร้อมเสนอ "ช้อปดีมีคืน" กลับมาใช้อีกใน 2 เดือนสุดท้าย เพื่อกระตุ้นเพิ่มขึ้น ด้านฟู้ดดีลิเวอรี่ทุกเจ้าแข่งเดือด อัดแคมเปญทั้งลด-แถม จูงใจร้านและลูกค้าเข้าร่วม

- ครม.อนุมัติ 5 มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวปลายปี คาดหนุนจีดีพีเพิ่ม 0.04% โดยนำรายจ่ายไม่เกิน 2 หมื่นบาท ลดหย่อนเที่ยวเมืองรองได้ 1.5 เท่า เมืองหลักได้ 1 เท่า ส่วนนิติบุคคลลดหย่อนได้ 1.5 เท่าตามรายจริง พร้อมเร่งเบิกงบอบรมสัมมนา ขยายเวลาลดภาษีสถานบันเทิง 5% และนำรายจ่ายปรับปรุงโรงแรม ลดหย่อนได้ 1.5 เท่า

- แอร์ไลน์เฮโลสยายปีกเข้าไทย รับท่องเที่ยวไฮซีซัน CAAT เผยตารางบินฤดูหนาวปีนี้ จัดสรรสล็อตบินแล้วไม่ต่ำกว่า 255 สายการบิน ททท.ดึง 731 เที่ยวบินเช่าเหมาลำจากจีนเข้าไทย ด้านสมาคมโรงแรมไทย เผยทัวร์ริสต์ยุโรปพุ่ง โรงแรม 4-5 ดาวได้อานิสงส์

- 'คมนาคม' เดินหน้า 11 บิ๊กโปรเจ็กต์รถไฟฟ้า-ทางด่วน ทะลวงงบผูกพันข้ามปี 69 พุ่ง 9 แสนล้าน หลังครม.ไฟเขียวก่อหนี้รายการใหม่ แตะ 3.4 แสนล้าน กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ

- กระทรวงการคลัง จะมีประชุมจัดทำ "แผนการคลังระยะปานกลาง" ใหม่ ในเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นไปตามไทม์ไลน์ปกติ เพียงแต่รอบนี้มี "โจทย์ใหญ่" ที่ต้องเร่งบริหารจัดการก็คือ ต้องจัดทำแผนลดการขาดดุลทางการคลังที่มีความชัดเจนออกมา เพื่อสะท้อนถึงความพยายามแก้ปัญหา "ฐานะการคลัง" อย่างเป็นรูปธรรมในระยะข้างหน้า หลังจากมีเสียงเตือนจากสถาบันจัดอันดับเครดิตถึง 2 ราย ซึ่งได้ปรับลดแนวโน้มเครดิตประเทศไทยจาก "มีเสถียรภาพ" เป็น "เชิงลบ" จึงท้าทายการดำเนิน นโยบายของรัฐบาลเป็นอย่างมาก

- อิ๊งค์ ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย 22 ต.ค. เตรียมเรียกประชุม สส.-กรรมการบริหารพรรค แจ้งให้ทราบ

- "สแกมเมอร์กัมพูชา" ฉุดเชื่อมั่นภาคการท่องเที่ยว "แอตต้า" ชี้นักท่องเที่ยวเอเชียตะวันออก "เกาหลี-ญี่ปุ่นไต้หวัน" ฐานตลาดสำคัญของอาเซียน ไม่มั่นใจในการเดินทาง จี้รัฐเร่งออกมาตรการเชิงรุก 4 ข้อ พร้อมแสดงภาวะผู้นำ ยกระดับไทย "ศูนย์กลางความปลอดภัยอาเซียน" ครม. ไฟเขียว 5 มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเร่งเบิกจ่าย ดันจีดีพี ไตรมาส 4 คาดกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม 0.04%

*หุ้นเด่นวันนี้

- BGRIM (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 16.00 บาท Bond Yield 10 ปี ของสหรัฐปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ที่ 4% ตาม Dot plot ของการประชุมล่าสุด ที่คาดว่าลดดอกเบี้ยในปี 69 และ 70 ปีละ 1 ครั้ง หนุนกลุ่มโรงไฟฟ้า อย่าง BGRIM ในขณะที่ กกพ. เผยนโยบาย Quick win อาทิ โซลาร์ชุมชน - Direct PPA - โซลาร์เกษตร หนุนปริมาณ MW จากทั้ง Demand ของ Data center และภาคครัวเรือน เปิด upside ในระยะถัดไป

- GFPT (ฟินันเซีย ไซรัส) "เก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย 12 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/68 ลุ้นทำ New High ที่ 680-700 ลบ. โตทั้ง q-q และ y-y แม้ปริมาณส่งออกไก่ลดลงจากปัญหาขาดแคลนแรงงานกัมพูชาและราคาโครงไก่ในประเทศลดลง แต่ถูกหักล้างได้ทั้งหมดด้วยต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ทำให้ Gross Margin คาดยังขยับขึ้นแตะ 19.8% ทำจุดสุงสุดในรอบ 17 ปี แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/68 ยังดูดีต่อแม้เป็น low season เพราะปัญหาแรงงานคลี่คลาย คาดปริมาณส่งออกไก่ปรับขึ้นและคาดยังได้ผลบวกจากต้นทุนวัตถุดิบที่อยู่ในระดับต่ำ เบื้องต้นอาจเห็นกำไรระดับ 630-650 ลบ. ซึ่งจะทำให้กำไรทั้งปี 2025 จะทำ New High ที่ 2.6 พันลบ. +32% y-y

- KCE (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 27.00 บาท เรามีมุมมองเชิงบวกกับ KCE จากแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/68 คาดที่ 273 ลบ. เพิ่มขึ้น 26% YoY และ 50% QoQ ได้รับแรงหนุนหลักจากการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลง ขณะที่การเติบโตได้แรงหนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน จากอุปสงค์การเติมสต๊อกในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์หลังสต๊อกเริ่มกลับสู่ภาวะปกติและความกังวลด้านภาษีนำเข้าลดลง อีกทั้งการกลับสู่ภาวะปกติหลังการปรับสต๊อกจากการเข้าซื้อสำนักงานขายในยุโรปในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ทั้งนี้คาดว่า GPM จะเพิ่มขึ้น QoQ สู่ระดับ 20% จากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้นและประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น มองใน ไตรมาส 4/68 เราคาดว่ากำไรจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากแนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และการขยายตัวของอัตรากำไรเพิ่มเติมจากการดำเนินมาตรการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ