AI จะครองโลก!! คำนี้ไม่เกินจริง เพราะ AI ในปัจจุบันที่มีมากมายหลายค่าย สามารถใช้ทำอะไรก็ได้ แล้วแต่เราจะป้อนคำสั่ง (Prompt) เข้าไป ล่าสุดก็มีคนเอา AI มาเทรดคริปโทฯ แข่งกัน ให้ AI แต่ละตัวทำกำไรจริง จากการเทรดจริง!! บางที ไม่ต้องเทรดคริปโทฯ เป็น แค่เลือกใช้ AI ให้ถูก ก็อาจมีโอกาสได้!!
- AI เก่งนัก จับมาเทรดคริปโทฯ แข่งกันซะเลย แล้ว AI ตัวไหนทำกำไรได้มากสุด??
ช่วงนี้หลายคนน่าจะใช้ AI กันคล่องมือแล้ว แถมเราก็มีการใช้ AI มาเทรดคริปโทฯ กันด้วย ล่าสุดทาง Alpha Arena เอา AI ตัวท๊อป 6 ตัวดัง ไม่ว่าจะเป็น DeepSeek Chat V3.1, Grok-4, Claude Sonnet 4.5, GPT 5, Gemini 2.5 Pro, และ Qwen3 Max โดยใช้แพลตฟอร์ม HyperLiquid เป็นที่ประลองฝีมือ ด้วยเงินทุนที่ 10,000 ดอลลาร์ เท่ากัน
งานนี้เริ่มแข่งขันวันที่ 18 ตุลาที่ผ่านมา ผลลัพธ์การเทรดของ 2 วันแรก Deepseek ครองอันดับ 1 ทำกำไรทะลุ 40% ตามมาด้วย Grok ที่ทำไปได้ 35% และ Claude ที่ทำไป 24%
สิ่งที่ทำให้การแข่งขันนี้น่าสนใจคือ ความโปร่งใสแบบเรียลไทม์ ทุกคนสามารถดูทุกการตัดสินใจของ AI แต่ละตัว ตั้งแต่การคำนวณ Risk-Reward, การใช้ Sharpe Ratio, ไปจนถึง position การเทรดทั้งหมด บอกเลยว่าเห็นตั้งแต่กระบวนการคิดไปจนถึงการลงมือเทรดจริง ๆ
และแน่นอน ตอนนี้การแข่งก็ยังดำเนินอยู่ด้วย ใครที่สนใจอยากเข้าไปดู ติดตามกันได้ที่ Alpha Arena
โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว!! เมื่อหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของญี่ปุ่น หรือ FSA กำลังพิจารณา แก้ไขกฎเกณฑ์ ให้ธนาคารสามารถ ซื้อ ขาย และถือครองคริปโทฯ ได้ ไม่ต่างจากสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ อย่างหุ้นหรือพันธบัตรเลย
ตามรายงานจากสำนักข่าว Yomiuri กล่าวว่า FSA กำลังเสนอแผนการนี้ในที่ประชุมกลุ่มงานของสภาบริการทางการเงิน เพื่อปรับปรุงให้คริปโทเข้ากับระบบการเงินดั้งเดิมที่มีอยู่แล้ว พร้อมกับการวางกฎระเบียบให้มีความชัดเจนและมั่นคงมากขึ้น โดยคาดว่ากระบวนการทั้งหมด คาดว่าจะเสร็จภายในสิ้นปี 2025 นี้
ที่สำคัญ FSA ยังเตรียมที่จะอนุญาตให้กลุ่มธนาคารสามารถลงทะเบียนเป็น "ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนคริปโท" หรือ Cryptocurrency Exchange Operators เพื่อให้ธนาคารสามารถให้บริการซื้อขายและแลกเปลี่ยนคริปโทได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยเน้นย้ำว่าจะช่วยให้ผู้ลงทุนทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนในคริปโทได้ง่ายขึ้น และในอนาคตก็อาจจะกลายเป็น Crypto Bank ก็ได้
ไหน ๆ พูดถึงญี่ปุ่นแล้ว ก็ต้องพูดถึง Metaplanet กันหน่อย ใครที่ชอบลงทุนหุ้นนอกน่าจะคุ้นชื่อกันอยู่บ้าง Metaplanet บมจ. ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น ที่ถือบิทคอยน์มากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก แถมยังเดินหน้าซื้ออย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่มีโอกาส เรียกว่าใช้กลยุทธ์เดียวกับ Strategy ของพ่อใหญ่ Michael Saylor เลย
เพิ่งพูดถึง Metaplanet ในญี่ปุ่นไป มาดู บมจ. ไทยกันบ้างดีกว่า ล่าสุด บริษัท อาร์เอสเอ็กซ์วายแซด จำกัด (มหาชน) ภายใต้ตัวย่อ XYZ ซึ่งเป็นบริษัทลูกในเครือของ RS ได้ทำการซื้อบิทคอยน์จำนวน 21.97 บิทคอยน์ ทำให้ตอนนี้ถือครองอยู่ 74.97 บิทคอยน์ ด้วยต้นทุนเฉลี่ย 112,628 ดอลลาร์ต่อ 1 BTC
ทาง XYZ ได้ออกมาระบุว่า การลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นระยะยาวของXY Z ต่อบิตคอยน์ในฐานะสินทรัพย์เก็บมูลค่าที่มั่นคง (Sound Money) และเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์สร้างฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท XYZ มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำภาคเอกชนของประเทศไทยในการนำบิตคอยน์มาใช้เป็นสินทรัพย์คลัง (Bitcoin Treasury) เพื่อสร้างคุณค่าระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้น
https://youtu.be/4_-sRnuD6cQ