นายวีรวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดแกว่งไซด์เวย์อัพจากปัจจัยหนุนความคาดหวังการที่ผู้นำสหรัฐและจีนจะมีการพบกันเพื่อเจรจาการค้าในสัปดาห์หน้า เป็น Sentiment บวกต่อตลาดหุ้น โดยตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดมาส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นมาตอบรับข่าวดังกล่าว
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย อาจเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานในวันนี้ และช่วยผลักดันดัชนีอีกแรง แม้ว่าในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่
โดยให้แนวต้าน 1,310 จุด แนวรับ 1,290 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (23 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,734.61 จุด เพิ่มขึ้น 144.20 จุด หรือ +0.31%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,738.44 จุด เพิ่มขึ้น 39.04 จุด หรือ +0.58% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,941.80 จุด เพิ่มขึ้น 201.40 จุด หรือ +0.89%
- ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าเปิดบวก ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ระดับ 49,252.03 จุด ลดลง 64.03 จุด หรือ -0.13%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,897.62 จุด ลดลง 129.93 จุด หรือ -0.50% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,896.07 จุด ลดลง 20.26 จุด หรือ -0.51%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (22 ต.ค.) 1,302.35 จุด เพิ่มขึ้น 11.63 จุด (+0.90%) มูลค่าซื้อขาย 51,176.38 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (22 ต.ค.) 4,095.42 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. (23 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 3.29 ดอลลาร์ หรือ 5.62% ปิดที่ 61.79 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 ต.ค.) อยู่ที่ 6.47 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.76 แข็งค่าเกาะกลุ่มภูมิภาค จับตาทิศทาง Flow
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทลูคอยล์ (Lukoil) และรอสเนฟต์ (Rosneft) สองบริษัทผลิตน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย ซึ่งถือเป็นการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งแรกในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีวาระที่สองของทรัมป์ โดยมีเป้าหมายที่จะกดดันให้รัสเซียทำข้อตกลงยุติสงครามในยูเครน
- เสียงสะท้อน "8 ซีอีโอแบงก์" พาเหรดเตือนภาพเศรษฐกิจไทยยังคงเต็มไปด้วย "ความไม่แน่นอน" ทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายใน ขณะที่แรงส่งจาก "การส่งออก" เริ่มแผ่ว ส่วนการฟื้นตัว ของการบริโภคในประเทศถูกถ่วงด้วย "ภาระหนี้ครัวเรือนสูง" และ "กำลังซื้อเปราะบาง" ภาวะเช่นนี้ ทำให้ "ความระมัดระวัง" กลายเป็นความสำคัญ ในการดำเนินกลยุทธ์ของ "สถาบันการเงิน"
- ก.ล.ต. เตรียมทดสอบระบบ SDEP (ซีเคียวริตี้บูโร) เดือน พ.ย.ก่อนนำมาใช้จริงไตรมาส 1/69 เพื่อให้โบรกเกอร์สามารถตรวจสอบข้อมูลวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าระหว่างกัน เพิ่มความรอบคอบในการปล่อยสินเชื่อ-ลดความเสี่ยงระบบ พร้อมปรับเกณฑ์การปล่อย margin loan ลดเหลือไม่เกิน 4 เท่าของส่วนผู้ถือหุ้น เดินหน้าปรับปรุงกฎหมายดูแล Short Selling - Program Trading เพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่ ก.ล.ต.เป็นพนักงานสอบสวนในคดี high impact เพื่อยกระดับความโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุนไทย
- "ศุภจี" เตรียมหารือทวิภาคีสหรัฐเคลียร์ภาษีตอบโต้ช่วงประชุมอาเซียน หวังเจรจาจบปีนี้ ย้ำทีมเจรจายึดผลประโยชน์ ประเทศ "กรมการค้าต่างประเทศ" จับมือ สรท.ติวเข้ม ผู้ส่งออกรับมือกฎ RVC ลุ้นปรับสูตรคำนวณใหม่ กำหนดสัดส่วนวัตถุดิบในประเทศ-ภูมิภาค คาดจบ พ.ย.นี้ เตรียมคุมเข้มการตรวจทุกชิปเมนต์ ที่ส่งไปสหรัฐ ก่อนออกใบ C/O ป้องกัน การสวมสิทธิ์
- AREA เผยผลสำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลในช่วง 9 เดือนแรกของปี 68 มีการเปิดตัว 181 โครงการ รวม 29,684 หน่วย มูลค่า 195,132 ล้านบาท การเปิดตัวคึกคักตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ส่วนเดือนที่ซบเซาคือเดือนมกราคม 2568 เพราะเปิดตัวไปมากแล้วในเดือนธันวาคม 67 และเดือนเมษายน 68 คาด 3 เดือนสุดท้ายปีนี้จะคึกคักเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าการเปิดตัวมีจำนวนโครงการลดลง 33% จำนวนหน่วยลดลง 30% มูลค่าลดลง 32% ราคาต่อหน่วยลดลง 2.1% จาก 6.715 ล้านบาท เหลือ 6.574 ล้านบาท สะท้อนว่าขายสินค้าในราคาที่ถูกลง สำหรับอัตราการขายได้ใน 9 เดือนแรก ขายได้ 7,342 หน่วย หรือ 25% ลดลงจากปีก่อนหน้า แต่จากการเปิดตัวน้อยทำให้มีความมั่นใจในอัตราการขายได้มากกว่า
- บมจ.อินดิจี เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มเทคโนโลยี โดยใช้ชื่อย่อ "IDG" ในวันที่ 24 ตุลาคม 2568 IDG ประกอบธุรกิจให้บริการออกแบบและพัฒนาระบบดิจิทัลแบบครบวงจร รวมทั้งให้บริการเป็นที่ปรึกษาด้าน Digital & AI Transformation และพัฒนาโซลูชันตามความต้องการของลูกค้า โดยราคา IPO หุ้นละ 3 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 84 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 300 ล้านบาท
- PTTEP (ฟินันเซีย ไซรัส) "เก็งกำไร" ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus 133.85 บาท ระยะสั้นคาดราคาหุ้นจะได้ Sentiment จากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นราว 5% หลังสหรัฐฯประกาศคว่ำบาตร 2 บริษัทพลังงานรายใหญ่รัสเซีย ได้แก่ Lukoil และ Rosneft เพื่อกดดันให้รัสเซียทำข้อตกลงยุติสงครามในยูเครน ภาพเทคนิคแม้ภาพรวมระยะกลางจะยังเป็น Sideways Down แต่ระยะสั้นไม่หลุดต่ำกว่าแนวรับ 105 บาทและเริ่มมีแรงซื้อหนุนราคาฟื้นตัวกลับ ทำให้มีโอกาสไต่ระดับเข้าหาแนวเส้นต้นทุนค่าเฉลี่ยต่างๆ
- MAGURO (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 30.75 บาท แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/68 ปรับขึ้นได้ต่อ +QoQ, +YoY หนุนจากการเติบโต SSSG สาขาเดิมเริ่มฟื้นตัว แต่ key driver หลักยังมาจากการเปิดสาขาใหม่เป็น 49 สาขา (จาก Q2/68 ที่ 45 สาขา) แนวโน้มไตรมาส 4/68 คาดกำไรเร่งขึ้นต่อเนื่องจากเป็น high season และมีแผนเปิดใหม่อีก 3 สาขา ปี 68 ผู้บริหารคาดรายได้โต +30%YoY และตั้งเป้ายอดขาย 5 พันล้านบาทภายในปี 72 ด้วยอัตรากำไรขั้นต้น 50-55% เบื้องต้น Consensus ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ที่ 142 ล้านบาท +46%YoY และ 185 ล้านบาท +30%YoY