 
SET ปิดวันนี้ที่ 1,309.50 จุด ลดลง 5.15 จุด (-0.39%) มูลค่าซื้อขาย 32,552.48 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวลงตามทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ หลังเฟดปรับลดดอกเบี้ยช้าลงกว่าเดิมกดดัน Fund Flow ชะลอเข้าตลาดเอเชีย ขณะที่ตลาดสหรัฐมีภาพระมัดระวังลงทุนมากขึ้น ขณะที่ บจ.ไทยที่อิงตลาดภายในประเทศอาจมีผลประกอบการอ่อนแอ จึงมีแรงขายทำกำไรออกมา แนวโน้มในสัปดาห์หน้าคาดตลาดชะลอตัวเสี่ยงปรับฐานลงแรงหากหลุด 1,300 จุด โดยให้แนวรับที่ 1,290 จุด แนวต้าน 1,330 จุด
SET ปิดวันนี้ที่ 1,309.50 จุด ลดลง 5.15 จุด (-0.39%) มูลค่าซื้อขาย 32,552.48 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งผันผวนในแดนลบ โดยทำจุดสูงสุด 1,318.33 จุด ทำจุดต่ำสุดที่ 1,304.11 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 222 หลักทรัพย์ ลดลง 219 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 218 หลักทรัพย์
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในภาพรวมมีแรงขายทำกำไรออกมาสอดคล้องกับบรรยากาศการลงทุนในตลาดต่างประเทศ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยช้าลงกว่าคาดการณ์เดิม ทำให้ในช่วงสั้นทิศทาง Fund Flow ชะลอเข้าตลาดเอเชีย ขณะที่ภาพการลงทุนในสหรัฐมีความระมัดระวังมากขึ้น โดยมาจากความกังวลการลงทุนเทคโนโลยีมหาศาลอาจทำให้ตลาดตึงตัว บริษัทเทคโนโลยี เช่น เฟซบุ๊ก ต้องออกหุ้นกู้เพื่อนำไปลงทุนก็คาดว่าการจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นจะน้อยลง
ส่วนในไทย ผลประกอบการกลุ่มแบงก์ออกมาดี และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐทยอยออกมาแล้ว ในช่วงถัดไปมองว่าบริษัทจดทะเบียนที่อิงการบริโภคภายในประเทศมีโอกาสผลประกอบการอ่อนแอ โดยเดือน ส.ค.-ก.ย.เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ขณะที่เงินกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่งเข้ามาสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ต.ค.ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมาก่อน สลับแรงเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว อาทิ KBANK , BANPU เป็นต้น และกลุ่มที่คาดจะมีผลประกอบการดีระดับหนึ่งมองเป็นหุ้นที่ค่อนข้างมั่นคง อาทิ CPN, GFPT, RATCH, WHAUP
แนวโน้มในสัปดาห์หน้าคาดตลาดหุ้นไทยจะชะลอตัว ให้ระมัดระวังหลังจากดัชนี SET หลุดระดับ 1,313-1,314 จุด เสี่ยงปรับฐาน และหากหลุด 1,300 จุดอาจลงไปเร็วไปที่ 1,250 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,968.06 ล้านบาท ปิดที่ 186.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,045.07 ล้านบาท ปิดที่ 217.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,774.53 ล้านบาท ปิดที่ 131.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,695.04 ล้านบาท ปิดที่ 158.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,570.17 ล้านบาท ปิดที่ 302.00 บาท ลดลง 3.00 บาท