นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล [XPG] กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 69 เติบโต 10-20% พร้อมศึกษาแนวทางปรับสัดส่วนให้สมดุล ทั้งรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน กองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล ด้วยการผลักดันการเชื่อมต่อ Ecosystem ในกลุ่ม คาดหวังให้สัดส่วนรายได้ของค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% จากปัจจุบันสัดส่วนรายได้หลักมาจากสินเชื่อมีหลักประกันกว่า 60%
สำหรับในไตรมาส 4/68 ธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตโดดเด่น ได้แก่ ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด (XSpring Digital) ซึ่งอยู่ระหว่างการยื่นขออนุญาตต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน SiriHub2 โดยมีอาคารสำนักงาน Siri Campus มูลค่าประเมินกว่า 2.5 พันล้านบาท เป็นทรัพย์สินอ้างอิง และมีบมจ.แสนสิริ [SIRI] (เครดิตเรตติ้ง BBB+) เป็นผู้เช่าหลักเพียงรายเดียว
โครงสร้างการลงทุนแบบใหม่ของ SiriHub2 ให้ผลตอบแทนคงที่ 6% ต่อปี ตลอดอายุโครงการ 3 ปี พร้อมสิทธิได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวนเมื่อครบกำหนดโครงการ เปิดให้ผู้ลงทุนจองซื้อครั้งแรก (ICO) ในไตรมาส 4/68 ในราคาโทเคนละ 10 บาท ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท
ขณะเดียวกัน ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งที่ให้บริการบริหารกองทุนรวม และกองทุนส่วนบุคคล ทั้งสินทรัพย์ในตลาดและนอกตลาด ผ่าน บลจ.เอ็กซ์สปริง (XSpring AM) เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่โดดเด่นในปีนี้ หลังจากเปิดตัวกองทุนใหม่ๆ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงอย่างต่อเนื่อง เช่น กองทุนเปิดเอ็กซ์สปริงเทคโนโลยีพลังงานนิวเคลียร์และยูเรเนียม (X-NUCTECH) ล่าสุด (วันที่ 29 ต.ค. 68) ให้ผลตอบแทนแล้ว 39.05% นอกจากนี้ ยังมีกองทุน X-EMBOND ลงทุนในตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ทั่วโลกตอบโจทย์เป็ฯทางเลือกในการล็อกผลตอบแทนสูงก่อนจะเข้าสู่เทรนด์ดอกเบี้ยขาลงในช่วงเศรษฐกิจผันผวน
ขณะเดียวกัน ยังเปิดกองทุนใหม่ที่เน้นเทคโนโลยีเพื่อตอบรับความต้องการของตลาดในยุคปัจจุบัน เช่น กองทุนเปิดเอ็กซ์สปริงควอนตัมคอมพิวเตอร์ X-QUANTUM ลงทุนในกองทุนต่างประเทศที่ลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่มีรายได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งมาจากธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีควอนตัม อยู่ระหว่างการเปิดขายครั้งแรก (IPO) ช่วงวันที่ 27 ต.ค.-4 พ.ย. 68 และเริ่มซื้อขายได้ทุกวันทำการตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย. 68 เป็นต้นไป ลงทุนเริ่มต้นเพียง 5,000 บาท ผ่าน XSpring Mobile Applicationหรือ ผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุนทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดกองทุนรวมอีกหนึ่งกองทุนในช่วงเดือนพ.ย.นี้
นอกจากนี้ ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ โดย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง (KTX) ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบัน KTX ครองส่วนแบ่งการขายตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt: DR) สูงสุดในตลาดหลักทรัพย์มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 20% สะท้อนความเชื่อมั่นจากนักลงทุนรายย่อยและสถาบันในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ บริการ และความเข้าใจเชิงลึกในตลาดต่างประเทศ เช่น การบริการ DR Night Desk ที่ให้บริการนอกเวลาทำการในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 19.00-03.00 น.ออกแบบมาเพื่อให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงโอกาสการลงทุนในหุ้นต่างประเทศแบบเรียลไทม์แม้ในช่วงกลางคืน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตลาดหลักในสหรัฐ ฯ และยุโรปเปิดทำการสะท้อนวิสัยทัศน์ของบริษัทในการขับเคลื่อนนวัตกรรมการลงทุนให้เข้าถึงได้อย่างไร้ข้อจำกัด
อีกหนึ่งธุรกิจที่เติบโตอย่างโดดเด่นคือ ธุรกิจสินเชื่อ ทั้งPrivate Credit ของ XPG ที่ได้รับปัจจัยบวกจากความผันผวนทางเศรษฐกิจ ทำให้สถาบันทางการเงินขนาดใหญ่เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ จึงทำให้เกิดโอกาสธุรกิจจากกลุ่มที่ต้องการสินเชื่อเพิ่มสูงขึ้น ๆ เช่น ผู้ประกอบการที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียน ซึ่ง XPG ได้ออกแบบโซลูชันโครงสร้างหนี้ที่ยืดหยุ่น ตอบโจทย์และเฉพาะตัว ภายใต้แนวทางการทำงานร่วมกันของ Ecosystem ในกลุ่มธรุกิจการเงิน XSpring ซึ่งเชื่อมโยงบริการจากหลากหลายธุรกิจเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ เช่น ลูกค้าที่ใช้บริการด้านวาณิชธนกิจ หรือด้านสินทรัพย์ดิจิทัล และลูกค้ากองทุน สามารถส่งต่อมาที่สินเชื่อได้ทันทีเมื่อฝั่งลูกค้าธุรกิจต่างๆต้องการเสริมสภาพคล่อง
ขณะที่ลูกหนี้คุณภาพดีจากสินเชื่อก็สามารถเชื่อมต่อไปยังผลิตภัณฑ์กองทุน หรือโทเคนดิจิทัล รวมถึงธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ ผ่าน บล.กรุงไทย เอกซ์สปริง นอกจากนี้ ยังมีการบริหารโครงการ Co-Lending Program เพื่อเป็นทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อ โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้ากลุ่ม Ultra Wealth ที่มีศักยภาพด้านเงินทุนเข้ามามีส่วนร่วมในการให้สินเชื่อ ร่วมกับภาคธุรกิจที่ต้องการแหล่งเงินทุน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
"เราสร้าง Ecosystem ของกลุ่ม XSpring เพื่อนำไปสู่ความยั่งยืนทางการเงินให้กับลูกค้าทุกราย รวมถึงสังคม ในฐานะตัวกลางเชื่อมโยงภาคธุรกิจที่ต้องการเงิน และนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนที่ยั่งยืน เราสร้างบริการทางการเงินที่ครบวงจรทั้งการลงทุนแบบดั้งเดิมและแบบดิจิทัล สะท้อนศักยภาพในการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความต้องการของลูกค้าอย่างครอบคลุม และยังสร้างกิจกรรมส่งต่อความรู้เพื่อมอบความยั่งยืนทางด้านการเงินไปสู่กลุ่มเสี่ยง เช่น กลุ่มผู้บกพร่องทางการได้ยิน หรือกลุ่มอาชีพเปราะบาง เป็นต้น" นางสาววรางคณา กล่าวนายยศกร ฟอลเล็ต เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร XSpring AM กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งต้องติดตามยอดนักท่องเที่ยวและการบริโภคในช่วงปลายปีประกอบกัน โดยแนะนำลงทุนหุ้นในกลุ่มที่มีปันผลสูง และคาดกรอบด่ชนี SET ในปีนี้มีแนวรับ 1,235 จุด แนวต้านที่ 1,350 และ 1,400 จุด