ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่ยุคใหม่ เดินหน้าจัดสัมมนา "BOI to IPO: ตลาดทุนสร้างการเติบโต" เพื่อผลักดันและส่งเสริมบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรม New Economy ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่มีศักยภาพเข้าสู่ตลาดทุนไทย
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการ BOI กล่าวว่า การผนึกกำลังของ BOI และตลท.เป็นพลังคูณสองที่จะช่วยยกระดับผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างชาติให้สามารถเติบโตและแข่งขันในโลกยุคใหม่ได้ ผ่านการบูรณาการสิทธิประโยชน์และเครื่องมือของทั้งสององค์กร โดยในระยะแรก จะเน้นความร่วมมือใน 2 เรื่องสำคัญ คือ

1) การดึงบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง 3 สาขาหลัก ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ ยานยนต์ไฟฟ้า และดิจิทัล ที่เข้ามาตั้งฐานธุรกิจในประเทศไทยและได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ให้เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพการระดมทุน ยกระดับมาตรฐานธรรมาภิบาลของภาคธุรกิจ เสริมความแข็งแกร่งของตลาดทุนไทย และยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยร่วมเป็นเจ้าของอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
และ 2) การสนับสนุนให้บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่แล้ว มีการลงทุนเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการผลิตและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านมาตรการยกระดับอุตสาหกรรม (Smart and Sustainable Industry) ของ BOI และโครงการ JUMP+ ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของ BOI ในการเดินหน้าประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และความยั่งยืน

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า ตลท.มีพันธกิจในการเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อธุรกิจให้เข้าถึงแหล่งระดมทุน และสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุน โดยที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการปรับปรุงเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนใน SET และ mai เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มธุรกิจ New Economy ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ ผ่านเกณฑ์พิจารณา Market Capitalization เพื่อให้กิจการที่ลงทุนในเทคโนโลยี นวัตกรรม ซึ่งยังไม่มีผลกำไรสามารถเข้าจดทะเบียนได้ นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างทบทวนกฏเกณฑ์ดังกล่าวให้มีความทันสมัยเทียบเคียงได้กับตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาค
สัมมนา "BOI to IPO: ตลาดทุนสร้างการเติบโต" ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงาน เพื่อการสื่อสารไปยังผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยให้ข้อมูลแนวทางการสนับสนุนภาคธุรกิจในการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ โดยมี นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการ BOI กล่าวในหัวข้อ "BOI ส่งเสริมการลงทุน เพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยไปสู่เศรษฐกิจใหม่" นายอำนวย จิรมหาโภคา ผู้ช่วยผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลท.ให้ข้อมูล "โอกาสระดมทุนของกิจการเพื่อพัฒนาศักยภาพในการแข่งขัน"
พร้อมด้วยเสวนา "การยกระดับการเติบโต ด้วยกลไกของตลาดทุน" โดยผู้บริหารจากภาครัฐและเอกชน นางจันทนิดา สาริกะภูติ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย [SCC] นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช บมจ.อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย [RBF] และนายอนุวัฒน์ ร่วมสุข บล.เกียรตินาคินภัทร ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ มุมมองการขอรับสิทธิประโยชน์ BOI และการใช้ประโยชน์จากตลาดทุน เพื่อให้ข้อมูลและสร้างแรงบันดาลใจในการเข้าจดทะเบียนแก่ผู้ประกอบการ
การส่งเสริมธุรกิจในอุตสาหกรรม New Economy ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการเพิ่มคุณภาพและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ความร่วมมือดังกล่าวยังรวมถึงการผลักดันให้บริษัทจดทะเบียนได้พิจารณาและใช้สิทธิประโยชน์จาก BOI ในรูปแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมขับเคลื่อนประเทศก้าวสู่เศรษฐกิจใหม่ รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการให้บริการและพิจารณาคำขอของสองหน่วยงานเพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับการบริการที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
ความร่วมมือระหว่าง ตลท.และ BOI ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคตอย่างยั่งยืนผ่านการส่งเสริมการลงทุนและกลไกของตลาดทุน ทั้งนี้ ธุรกิจ New Economy ตามนิยามเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนด้วยเกณฑ์ Market Capitalization หมายถึงบริษัทที่มีการประกอบธุรกิจเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งอ้างอิงจากประเภทกิจการที่ได้รับการส่งเสริมจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้แก่ การเกษตรและอาหารขั้นสูง เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ การต่อยอดทางการแพทย์และสุขภาพ การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ยานยนต์สมัยใหม่ การบินและโลจิสติกส์ ดิจิทัลและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม