บมจ.บางจาก ศรีราชา [BSRC] รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิ 343 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,349 ล้านบาท จากไตรมาสก่อนหน้าที่ขาดทุนสุทธิ 2,006 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/67 ที่ขาดทุนสุทธิ 1,735 ล้านบาท สะท้อนถึงประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ค่าการกลั่น (GRM) ที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนทางการเงินที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากการชำระคืนเงินกู้ระยะยาวครบทั้งหมด
ในไตรมาสนี้ บริษัทมีรายได้รวม 52,673 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,996 ล้านบาท จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลง 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) แม้ว่าราคาขายเฉลี่ยปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก แต่ปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้รวมปรับตัวดีขึ้น

นายอนุวัตร รุ่งเรืองรัตนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจโรงกลั่น กล่าวว่า BSRC สามารถพลิกกลับมามีกำไรในไตรมาสนี้ด้วยหลายปัจจัย อาทิ ค่าการกลั่น (GRM) ปรับตัวสูงขึ้นจากการฟื้นตัวของส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันดีเซลและน้ำมันเครื่องบิน ผลขาดทุนจากสินค้าคงเหลือลดลงหลังราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น และต้นทุนทางการเงินลดลง จากการชำระคืนเงินกู้ระยะยาวครบทั้งหมดในเดือนกรกฎาคม ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับลดลง
สำหรับไตรมาส 3/68 ปริมาณการกลั่นน้ำมันดิบของโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา อยู่ที่ 142,007 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 22,329 บาร์เรลต่อวันจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากไม่มีการหยุดซ่อมบำรุง และสามารถใช้ Conversion Units ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพภายหลังการปรับปรุงแล้วเสร็จ นอกจากนี้ ในเดือนตุลาคม BSRC เริ่มมีการรับน้ำมันดิบจากเรือบรรทุกน้ำมันดิบขนาดใหญ่ (Very Large Crude Carrier - VLCC) ลำแรกได้สำเร็จ ภายใต้โครงการพัฒนาทุ่นรับน้ำมันดิบแบบหลายจุด (Multi-Bouy Mooring - MBM) ซึ่งช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งและเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการน้ำมันดิบ

ด้านการตลาด BSRC ทำสถิติจำหน่ายน้ำมันเรือเดินสมุทรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 42 ล้านลิตรต่อเดือน ในเดือนสิงหาคม สอดคล้องกับกลยุทธ์การเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ เดินหน้าขยายร้านกาแฟอินทนิล ในสถานีบริการน้ำมันครบ 104 สาขา ณ สิ้นไตรมาส 3/68 เพื่อสร้างระบบนิเวศธุรกิจ (Ecosystem) ที่แข็งแกร่งและตอบโจทย์ลูกค้าที่หลากหลาย