นายวีรวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอส เอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์อัพ ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้าวันนี้เปิดมาปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งตลาดยังคงคาดหวังสหรัฐจะสามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณได้ และทำให้ภาวะการชัตดาวน์สิ้นสุดลงภายในสัปดาห์นี้
ส่วนปัจจัยในประเทศยังคงต้องติดตามการรายงานผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3/68 ที่ทยอยออกมา ซึ่งบริษัทจดทะเบียนที่รายงานออกมาแล้วส่วนใหญ่มีผลการดำเนินงานออกมาดี ทำให้ยังเป็นปัจจัยหนุนต่อภาพรวมตลาด
โดยให้แนวต้าน 1,310-1,315 จุด แนวรับ 1,295-1,300 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (10 พ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 47,368.63 จุด เพิ่มขึ้น 381.53 จุด หรือ +0.81%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,832.43 จุด เพิ่มขึ้น 103.63 จุด หรือ +1.54% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,527.17 จุด เพิ่มขึ้น 522.64 จุด หรือ +2.27%
-ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าปิดบวก ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 26,319.40 จุด เพิ่มขึ้น 77.57 จุด หรือ +0.29% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 4,001.79 จุด เพิ่มขึ้น 4.23 จุด หรือ +0.10% และดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 50,645.27 จุด เพิ่มขึ้น 368.90 จุด หรือ +0.73%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (10 พ.ย.) 1,306.26 จุด เพิ่มขึ้น 3.35 จุด (+0.26%) มูลค่าซื้อขาย 29,428.77 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (10 พ.ย.) 1,031.66 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. (10 พ.ย.) เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.64% ปิดที่ 60.13 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (10 พ.ย.) อยู่ที่ 4.04 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.35 คาด sideway ตลาดจับตาแนวโน้มนโยบายการเงิน BoE
- ครม.เตรียมอนุมัติมาตรการแก้หนี้ประชาชนรายย่อย คิกออฟวันนี้ ธปท.นัดคลัง สมาคมธนาคารไทย เปิดตัว "ปิดหนี้ไว ไปต่อได้" ตั้ง AMC ซื้อหนี้เสียประชาชนมาบริหาร "คลัง" ตั้งเป้าช่วย 2.3 ล้านบัญชี "เอกนิติ" ลุยเฟสต่อไปแก้หนี้ "เกษตร-เอสเอ็มอี" 1 แสนราย มั่นใจเศรษฐกิจไทยพ้นปากเหว หลังคนละครึ่งหนุนจีดีพีไตรมาส 4 โต 1.1% จากคาดการณ์เดิม 0.3%
- วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้อนุมัติมาตรการที่มุ่งกลับมาเปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางอีกครั้ง และยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางที่กินเวลานานถึง 40 วัน ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ หลายคนต้องพักงาน, ความช่วยเหลือด้านอาหารที่ล่าช้า และการเดินทางทางอากาศที่ติดขัด
- คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) เห็นชอบแผนดำเนินงานภายใต้มาตรการเร่งรัดการลงทุนและแก้ไขปัญหาลงทุน ได้แก่ 1.ขับเคลื่อนระบบ FastPass อำนวยความสะดวกและเร่งรัดโครงการลงทุนสำคัญ โดยระยะแรกจะเร่งพิจารณาอนุมัติ/อนุญาตจาก 7 หน่วยงาน คาดจะลดเวลาพิจารณาได้ 20-50% 2.ความคืบหน้าแก้ปัญหา 3 ด้าน คือ ไฟฟ้า, จัดหาพื้นที่สำหรับการลงทุน, วีซ่าและใบอนุญาตทำงาน 3.ติดตามโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ได้รับอนุมัติช่วงปี 66-67 จำนวน 74 โครงการมูลค่า 300,000 ล้านบาท
- ที่ประชุม กกพ.มีมติให้เปิดรับฟังความคิดเห็นค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับเรียกเก็บค่าไฟฟ้าสำหรับงวดเดือน ม.ค.-เม.ย.2569 เป็น 2 กรณี โดยเรียกเก็บที่ 4.58 และ 3.94 บาท/หน่วย แต่เนื่องจากต้นทุนหลักทั้งราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกลดต่อเนื่อง และการแข็งค่าเงินบาท ส่งผลเชิงบวกต่อค่าไฟทำให้ค่าไฟเข้าสู่ภาวะขาลง จึงมีช่องว่างของโอกาสในการบริหารความสมดุลระหว่างการลดลงต้นทุนค่าไฟ กับการรักษาเสถียรภาพความมั่นคงของระบบพลังงานได้พร้อมกัน
- รถยนต์ถกรัฐ ฟื้นฟูอุตสาหกรรม-ตลาด ปัดฝุ่นโครงการรถเก่าแลกรถใหม่ หวังปรับโครงสร้างภาษี ลดความเหลื่อมล้ำ ด้านโตโยต้าเผยปิกอัพสร้างมูลค่าเพิ่มสูง เหตุใช้ชิ้นส่วนในประเทศมาก เกิดการสร้างอาชีพ เปิดตัวรถใหม่ "ทราโว่" ฟื้นตลาดปิกอัพ พร้อมรุกตลาดอีวีครั้งแรกตระกูลไฮลักซ์
- BTG (ฟินันเซีย ไซรัส) "เก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย 20 บาท กำไรไตรมาส 3/68 ออกมาตามคาดที่ 1.17 พันลบ. 55% q-q, +19% y-y ปริมาณขายยังคงเติบโตและต้นทุนการเลี้ยงลดลง ช่วยลดผลกระทบเชิงลบจากราคาหมูที่ปรับตัวลง ล่าสุดราคาหมูไทยในเดือน พ.ย. เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวจาก 56 บาทต่อกก.เป็นล่าสุด 64 บาทต่อกก. หลังผ่านพ้นเทศกาลกินเจ และมีแนวโน้มขยับตัวขึ้นต่อเนื่องจากทั้งการลด Supply ลูกหมู รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่การซื้อหุ้นคืนยังเป็นปัจจัยช่วยประคอง Downside
- ERW (คิงส์ฟอร์ด) "ทยอยซื้อ" ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 3.31 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 73 ลบ.(-41%YoY, +16%QoQ) YoY ยังกดดันจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยลดลง รวมถึงค่าใช้จ่ายซ่อมแซมโรงแรมจากแผ่นดินไหว แต่ QoQ คาดเห็นการฟื้นตัวดีหนุนด้วยมาตรการ "เที่ยวไทยคนละครึ่ง" ส่วนการดำเนินงานปกติช่วงไตรมาส 4/68 แม้มีแนวโน้มที่จะยังลดลง YoY แต่ QoQ มีโอกาสฟื้นตัวต่อได้จากแรงหนุนตามฤดูกาลและ"เที่ยวดีมีคืน 68" ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี 68 และ 69 กำไรสุทธิที่ 814 ลบ.(-36%YoY) และ 904 ลบ.(+11%YoY) ตามลำดับ
- AMATA (ลิเบอเรเตอร์) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท แนวโน้มผลประกอบการงวดไตรมาส 3/68 ที่คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 28%YoY,603%QoQ มาอยู่ที่ระดับ 983 ล้านบาท ได้รับผลดีจากการเริ่มโอนนิคมอมตะชลบุรี2 (บ้านบึง) ทำให้ยอดโอน รวมในไตรมาสนี้กว่า 676 ไร่ เทียบกับ 452 ไร่ในไตรมาส 3/67 และไตรมาส 2/68