BANPU ดีดขึ้น 3.06% มาที่ 5.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท มูลค่าซื้อขาย 90.74 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.01 น.
บล.คิงส์ฟอร์ด ระบุว่า บมจ.บ้านปู [BANPU] รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิ 1.05 พันล้านบาท พลิกจากไตรมาส 2/68 ที่ขาดทุนสุทธิ 945 ล้านบาท และไตรมาส 3/67 ขาดทุนสุทธิ 830 ล้านบาท หลักๆ เป็นเพราะบันทึกผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลง และมีกำไรจากตราสารอนุพันธ์เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม หากตัดรายการพิเศษออกผลการดำเนินงานยังคงขาดทุน เพราะกำไรจากธุรกิจหลักที่ดีขึ้นถูกหักกลบด้วยค่าใช้จ่ายทางการเงินและค่าใช้จ่ายทางภาษีที่อยู่ในระดับสูง
สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4/68 คาดผลการดำเนินงานหลักทยอยฟื้นตัว มีปัจจัยหนุนจากธุรกิจถ่านหินและธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่ทั้งปริมาณและราคาขายเฉลี่ยมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นตามอุปสงค์ในช่วงฤดูหนาว ช่วยชดเชยธุรกิจไฟฟ้าในสหรัฐฯ ที่จะอ่อนตัวลงเพราะผ่านฤดูร้อน อย่างไรก็ตาม คาดความต้องการใช้ไฟฟ้าในธุรกิจ Data Center ยังคงหนุนให้ราคาขายไฟฟ้าอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ส่วนโรงไฟฟ้า BLCP และ HPC ประเทศไทยชะลอตัวลงเช่นกัน
จากผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 68 ถือว่าออกมาดีกว่าคาด เราจึงปรับประมาณการในปี 68 เป็นขาดสุทธิ 784 ล้านบาท บนสมมติฐานปริมาณขายถ่านหิน (ITM+CEY+Traded+Monolia) ที่ 34.5 ล้านตัน ใกล้เคียงกับปีก่อน ราคาถ่านหินเฉลี่ย (NEX) US$110/ton ราคาก๊าซฯ เฉลี่ย (Henry Hub) US$2.6/Mcf ส่วนปี 69 คงประมาณการกำไรสุทธิ 2.46 พันล้านบาท
แนะนำ "ถือ" ปรับไปใช้ราคาเหมาะสมปี 69 ที่ 5.50 บาท อิง PBV Multiplier 0.50x (-1SD.ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง) แนะนำ "ถือ" ด้วยกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งของธุรกิจถ่านหินและก๊าซฯ น่าจะช่วยให้บริษัทสามารถจ่ายปันผลในระดับสูงได้สม่ำเสมอราว 6% ต่อปี ประกอบกับภายหลังการควบรวมเป็น NewCo ในช่วงไตรมาส 3-4/69 จะช่วยปลดล็อกมูลค่าในระยะยาวและทำให้ตัวเลขทางการเงินดีขึ้นตามลำดับ