นายพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อาม่า มารีน [AMA] เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 3/68 รายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้า 714.28 ล้านบาท ลดลง 2.17% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) และลดลง 3.76% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิ 44.49 ล้านบาท ลดลง 29.80% QoQ และลดลง 24.90% YoY โดยรายได้หลักยังคงมาจากกลุ่มธุรกิจการขนส่งสินค้าทางรถเพิ่มขึ้น จากการขนส่งสินค้าเหลว การขนส่งแก๊ส และตู้คอนเทนเนอร์
ทั้งนี้ ธุรกิจขนส่งสินค้าทางรถในไตรมาส 3/68 มีกำไรขั้นต้น 73.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.96 ล้านบาท หรือ 51.27 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.42 % เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 13.39 % สาเหตุหลักมาจากการบริหารจัดการจำนวนเที่ยววิ่งและต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเติบโต ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/68 เชื่อว่าจะมีทิศทางการดำเนินงานที่ดี และจะขยายตัวดีขึ้นจากช่วง High Season ขณะเดียวกันบริษัทเดินหน้าในการสร้างโอกาสการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต ซึ่งโฟกัสในธุรกิจโลจิสติกส์เป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ Warehouse และขนส่งทางโดรน ที่ล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมสาธิตการบินโดรนขนส่งยาและเวชภัณฑ์ เพื่อแสดงศักยภาพของเทคโนโลยีขนส่งอัจฉริยะในภาคการแพทย์ โดยโครงการดังกล่าวมีระยะเวลาสัญญาเริ่มตั้งแต่เดือน ธ.ค.68 คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.69
ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ บริษัท เอ เอ็ม เอ โลจีสติกส์ (AMAL) และ บริษัท ทีเอสเอสเค โลจิสติกส์ จำกัด (TSSK) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้มีการเพิ่มจำนวนรถขนส่งสินค้าทางรถเพื่อรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากกลุ่มลูกค้าหลักอย่าง บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี [PTG] ซึ่งขยายสถานีบริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงลูกค้าใหม่ในกลุ่มธุรกิจอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค ส่งผลให้ปริมาณการขนส่งทางบกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ