นายพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทุนธนชาต [TCAP] กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/68 และงวด 9 เดือนปี 68 โดยมีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมในไตรมาส 3/68 จำนวน 2,216 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิส่วนของบริษัท 2,079 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 68 มีกำไรสุทธิรวม 6,242 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิส่วนของบริษัท 5,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน
ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนชาตในงวด 9 เดือนปี 68 สะท้อนถึงการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจที่ TCAP ลงทุน ทั้งบริษัทย่อยหลัก ได้แก่ ราชธานีลิสซิ่ง ธนชาตประกันภัย และธนชาตพลัส รวมถึงบริษัทร่วมอย่าง ธนาคารทหารไทยธนชาต [TTB] เอ็มบีเค และพีอาร์จี คอร์ปอเรชั่น ที่สร้างผลกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิจะปรับลดลง ตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย แต่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นทั้งรายได้จากการรับประกันภัยสุทธิตามความสามารถในการบริหารธุรกิจประกันภัย และรายได้เงินปันผลเพิ่มขึ้นตามการลงทุนที่เพิ่มขึ้นของบริษัท ประกอบกับการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตฯ อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ TCAP และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทฯ งวด 9 เดือนปี 68 จำนวน 5,856 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นถึง 12% จากงวดเดียวกันปีก่อน
"หลังจากที่ TCAP ได้ดำเนินการขายหุ้นทั้งหมดในบล.ธนชาต ให้แก่ TTB เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา และ TCAP ได้รับเงินรวมทั้งสิ้นประมาณ 3,000 ล้านบาท บริษัทได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปลงทุนเพิ่มเติม ทั้งเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในบริษัทย่อย ลงทุนในธุรกิจทางการเงินที่มีศักยภาพ และชำระคืนหุ้นกู้บางส่วน เพื่อบริหารผลตอบแทนและต้นทุนทางการเงิน ตลอดจนเสริมสร้างความมั่นคงแข็งแรงให้กับ TCAP ได้ในระยะยาว" นายพีระพัฒน์ กล่าว