นายพลแสง แซ่เบ๊ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.โรแยล พลัส [PLUS] เปิดเผยว่า ปี 2569 จะเป็นอีกหนึ่งปีแห่งการเดินหน้าเต็มกำลังของ PLUS ทั้งในด้านการผลิต การตลาด และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเครื่องดื่มสุขภาพระดับพรีเมียม ซึ่งจะเป็นอีกแรงขับเคลื่อนสำคัญในการขยายฐานรายได้และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว
ภาพรวมตลาดสหรัฐอเมริกายังคงเป็นตลาดศักยภาพสูงและเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของบริษัท โดยผลิตภัณฑ์ Co-Branding น้ำมะพร้าว 100% บรรจุขวด PET ได้รับการตอบรับดีเยี่ยม ปัจจุบันวางจำหน่ายแล้วกว่า 600 สาขาในห้าง Walmart และเริ่มมี Repeat Order ต่อเนื่อง สะท้อนการยอมรับของผู้บริโภคและโอกาสขยายตัวของแบรนด์ไทยในตลาดอเมริกาที่มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งในอนาคต
ด้านตลาดโอเชียเนีย ยังคงมีทิศทางเชิงบวก รับกระแสความนิยมเครื่องดื่มน้ำมะพร้าวยังคงแรงต่อเนื่อง โดย PLUS ได้ลูกค้ารายใหญ่ ซึ่งช่วยเสริมยอดขายในช่วง Low Season ของภูมิภาคอื่น ทำให้บริษัทมีรายได้สมดุลและต่อเนื่องตลอดทั้งปี ถือเป็นตลาดยุทธศาสตร์สำคัญที่ช่วยกระจายความเสี่ยงและเสริมเสถียรภาพให้กับพอร์ตธุรกิจของบริษัท
สำหรับตลาดยุโรป บริษัทยังมองเห็นโอกาสจากเทรนด์การบริโภคเพื่อสุขภาพที่เติบโตอย่างชัดเจน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติอย่าง "น้ำมะพร้าว 100%" และ "น้ำนมมะพร้าว" ซึ่งเป็น Hero Products ปัจจุบันเริ่มขยายตลาดเข้าสู่ประเทศ สหราชอาณาจักร (UK) ซึ่งเป็นตลาดศักยภาพสูงและคาดว่าจะกลายเป็นฐานหลักในการเติบโตของ PLUS ในอนาคตอันใกล้
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังรุกขยายตลาดใหม่ในหลายภูมิภาคผ่านการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและกิจกรรม Business Matching กับภาครัฐ (DITP) ซึ่งได้รับเสียงตอบรับดีเยี่ยมจากคู่ค้าทั่วโลก และทำให้เราได้ลูกค้าใหม่จาก ลาตินอเมริกาและแอฟริกา เพิ่มเข้ามาในพอร์ต ช่วยเพิ่มความหลากหลายของตลาดส่งออกและสร้างโอกาสการเติบโตในระยะยาว
PLUS เดินหน้าพัฒนาและสร้างความหลากหลายของบรรจุภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคทั่วโลก ทั้งด้านขนาด ดีไซน์ และรูปแบบการบริโภค พร้อมเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในปี 69 เพื่อขยายพอร์ตสินค้าในกลุ่ม เครื่องดื่มสุขภาพระดับพรีเมียม และเสริมศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลกหลังจากการลงทุนใหญ่ด้านเครื่องจักรและระบบการผลิตเสร็จสมบูรณ์ บริษัทพร้อมเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตตั้งแต่ต้นปีหน้า เพื่อรองรับคำสั่งซื้อจากทุกภูมิภาคทั่วโลก รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนต่อหน่วย และเสริมมาร์จิ้นในระยะยาว
นอกจากการรุกตลาดต่างประเทศแล้ว บริษัทยังเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งในห่วงโซ่อุปทาน ด้วยการจัดหาวัตถุดิบพรีเมียมจากเกษตรกรไทย ผสานกับเทคโนโลยีการผลิตที่มีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับแบรนด์ไทยสู่ระดับสากล และต่อยอดสู่การเป็นผู้นำด้านการรับจ้างผลิต (ODM) ให้กับพันธมิตรทั่วโลก สร้างฐานรายได้มั่นคง และผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
"เรามั่นใจว่าโมเมนตัมของ PLUS จะกลับมาแข็งแกร่งในปี 2569 จากการขยายตลาดทั่วโลก การเปิดตัวสินค้าใหม่ การทำการตลาดเพื่อสร้าง Brand Awareness ในแต่ละภูมิภาค และการใช้กำลังการผลิตเต็มศักยภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างการเติบโตที่ต่อเนื่อง และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว" นายพลแสง กล่าวสำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/68 บริษัทมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 320.4 ล้านบาท ซึ่งได้รับผลกระทบจากฤดูกาลจำหน่าย และการทยอยปรับโครงสร้างต้นทุนการผลิตในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม บริษัทยังรักษาแนวโน้มการเติบโตเชิงโครงสร้างไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมเร่งขับเคลื่อนกลยุทธ์สู่การขยายตลาดทั่วโลก เพื่อวางรากฐานการเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 69
PLUS แจ้งผลประกอบการไตรมาส 3/68 พลิกเป็นขาดทุนสุทธิ 11.57 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.02 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 19.39 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.03 บาท