นางมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย [INET] เปิดเผยว่า โค้งสุดท้ายของปี 68 INET วางแผนขยายฐานลูกค้าธุรกิจ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณรัฐบาล อุตสาหกรรมการผลิต กลุ่มโรงพยาบาล และ Supply Chain เช่น ร้านอาหารและธุรกิจทั่วไป พร้อมมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการยกระดับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการสูงขึ้นจากภัยคุกคามที่ซับซ้อน ขณะเดียวกันบริษัทฯ เตรียมรับมือการขยายตัวของธุรกิจด้วยการพัฒนาบุคลากรควบคู่กัน โดยรายได้ในไตรมาส 4/68 เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว หลังจากรอเซ็นสัญญาโครงการใหม่มูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 3 ปี
ในไตรมาส 3/68 เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญภาวะชะลอตัวจากกำลังซื้อภายในประเทศที่อ่อนลงและความไม่แน่นอนทางการเมือง ส่งผลให้การเบิกจ่ายงบประมาณและการลงทุนล่าช้า อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีจำนวนลูกค้าสะสมถึง 6,286 ราย และมีจำนวน VMI สะสมสูงถึง 92,561 VMI โดยแบ่งเป็น เป็น VMI ที่รับรู้รายได้แล้วจำนวน 85,372 VMI ส่งผลให้รายได้รวมจากการขายและให้บริการอยู่ที่ 798.32 ล้านบาท เติบโต 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
ขณะที่กำไรจากการดำเนินงาน (EBIT) อยู่ที่ 267.52 ล้านบาท ลดลง 9% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา โดยลดลงเกิดจากผลขาดทุนของเงินลงทุนในทางบัญชี ซึ่งไม่กระทบต่อกระแสเงินสดของบริษัทฯ โดยหากมองผลกำไรโดยไม่รวมปัจจัยของผลขาดทุนทางบัญชีที่เกิดขึ้น บริษัทฯ ยังคงมีกำไรจากการดำเนินงานในระดับมั่นคง สะท้อนศักยภาพธุรกิจที่แข็งแกร่งและการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ INET แจ้งว่าไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิ 34.2 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.057 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 82.84 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.165 บาท
INET เป็นผู้นำด้าน Local Sovereign Cloud และ Digital Platform Service สัญชาติไทยเต็มรูปแบบ ดำเนินงานภายใต้กฎหมายและการกำกับดูแลของประเทศไทยทั้งหมด วางโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น Data Center และระบบเครือข่ายภายในประเทศเพื่อตอบสนองมาตรฐานอธิปไตยทางข้อมูล (Sovereign Cloud) และรองรับการใช้งาน Sovereign AI อย่างปลอดภัยสำหรับองค์กรไทย พร้อมลงทุนในมาตรฐานระดับสากล พัฒนาบุคลากร และสร้าง Ecosystem ผ่านศูนย์ปฏิบัติการในต่างจังหวัดและโปรแกรมฝึกอบรมด้าน Big Data, AI และซอฟต์แวร์ชั้นสูง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ที่ยั่งยืน