นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สกาย ไอซีที [SKY] กล่าวว่า สกาย กรุ๊ป มีผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี 68 บริษัทสามารถทำรายได้รวมทั้งสิ้น 7,824 ล้านบาท เติบโตขึ้น 66% และทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 609 ล้านบาท โตขึ้น 84% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ซึ่งถือเป็นนิวไฮทั้งรายได้และกำไรของบริษัทอีกครั้ง
สำหรับไตรมาส 3/68 บริษัทสามารถทำรายได้รวม 2,815 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 204 ล้านบาท เติบโตขึ้น 65% และ 84% ตามลำดับเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY)
สกาย กรุ๊ป สามารถขับเคลื่อนธุรกิจในช่วง 9 เดือนแรกให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด และหากเปรียบเทียบสัดส่วนรายได้และกำไรรวมทั้ง 3/68 กับตัวเลขรวมรายได้และกำไรทั้งปีของปี 67 บริษัทสามารถสร้างอัตราการเติบโตที่สูงกว่าทั้งปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจน สะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมบริษัทที่เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและมั่นคง
ปัจจัยหนุนหลักๆ ของการเติบโตมาจากภาพรวมอัตราการเดินทางของผู้โดยสารที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากข้อมูลสถิติอัตราการเดินทางเข้า-ออกประเทศของผู้โดยสารในช่วง 9 เดือนของปี 68 ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น ไม่ต่ำกว่า 5% ขณะที่อัตราการเดินทางภายในประเทศเติบโตในช่วง 616% แม้จะมีแรงกดดันจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง แต่การเดินทางโดยรวมของผู้โดยสารยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลบวกต่อรายได้รวมในกลุ่มธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับกิจการการบินและโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับท่าอากาศยานเติบโตตามไปด้วย โดยเฉพาะระบบเช็คอินและออกตั๋วผู้โดยสาร (CUPPS) และโครงการให้บริการระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) ที่มีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และคาดการณ์ได้อย่างมั่นใจว่าในไตรมาส 4/68 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นที่มีอัตราการเดินทางของผู้โดยสารสูงที่สุด จะเป็นไตรมาสที่ส่งผลบวกต่อรายได้และกำไรที่มากขึ้นให้กับ สกาย กรุ๊ป
ขณะที่ไตรมาส 3/68 บริษัทได้เข้าทำสัญญาใหม่และมีงานที่อยู่ระหว่างรอส่งมอบสัญญาในอนาคต (Backlog) อยู่ทั้งสิ้นราว 23,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 6-7 ปีข้างหน้า รองรับการเติบโตระยะยาวอย่างมั่นคง พร้อมเดินหน้าจัดทัพโครงสร้างธุรกิจในเครือ เพื่อรองรับการขยายการเติบโตของแต่ละธุรกิจให้มีความชัดเจน อาทิ ธุรกิจที่นำเทคโนโลยีมาช่วยให้บริการกลุ่มลูกค้าอสังหาริมทรัพย์ ด้วย Smart Facility Management ผ่าน บริษัท เมทเธียร์ จำกัด, ธุรกิจด้านการจำหน่ายและวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแบบครบวงจร (ICT-SI) ผ่านการส่ง บมจ.โปร อินไซด์ [PIS], และ ธุรกิจ Contact Center ที่นำเทคโนโลยี Large Language Model (LLM) และ AI เข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ผ่านการลงทุนใน บริษัท วันทูวัน โปรเฟสชั่นแนล จำกัด (ปัจจุบันชื่อบริษัท สกาย ซีซี จำกัด)
รวมถึงวางแผนสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กรด้วยรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่หลากหลายกับโครงสร้างรายได้ที่ครอบคลุมทั้งรูปแบบสัมปทาน (Concession) เป็นรายได้ระยะยาว, รายได้ประจำจากการให้บริการรายเดือน (Recurring Revenue), และรายได้จากโครงการ (Project based) เพื่อกระจายความเสี่ยง สร้างฐานรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน