สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (10 - 14 พฤศจิกายน 2568) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 436,193 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 87,239 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 2% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 51% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 223,760 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาล ที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 164,365 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 22,732 ล้านบาท หรือคิดเป็น 38% และ 5% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB303A (อายุ 4.3 ปี) LB353A (อายุ 9.3 ปี) และ LB456A (อายุ 19.6 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 17,505 ล้านบาท 15,399 ล้านบาท และ 14,713 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รุ่น PTTC268A (AAA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 2,076 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) รุ่น TBEV288A (AA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 1,151 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) รุ่น MBK28NA (A-) มูลค่าการซื้อขาย 896 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า 1-2 bps. ด้านปัจจัยต่างประเทศ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) รายงานการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ ประจำเดือน ต.ค. ลดลงเฉลี่ย 11,250 ตำแหน่ง เนื่องจากตลาดแรงงานประสบปัญหาในการสร้างงาน ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือน ต.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2%(YoY) สวนทางจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนต.ค. ลดลง 2.1%(YoY) ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 2.2% ด้านปัจจัยในประเทศ S&P Global Ratings คงอันดับความน่าเชื่อถือของไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) ที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)
สัปดาห์ที่ผ่านมา (10 - 14 พฤศจิกายน 2568) กระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 2,614 ล้านบาท โดยเป็นการซื้อสุทธิ ในตราสารหนี้ระยะสั้น (ST) (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 283 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (LT) (อายุมากกว่า 1 ปี) 3,372 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ 1,040 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price Index) เปลี่ยนเป็น ดัชนีหุ้นกู้เอกชน(MTM Corp Bond Gross Price Index) ตั้งแต่ ม.ค. 2565
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (10 - 14 พ.ย. 68) (3 - 7 พ.ย. 68) (%) (1 ม.ค. - 14 พ.ย. 68) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 436,192.71 447,283.95 -2.48% 19,286,304.68 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 87,238.54 89,456.79 -2.48% 90,973.14 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 112.88 112.76 0.11% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (MTM Corp Bond Gross Price Index) 108.76 108.73 0.03% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (14 พ.ย. 68) 1.26 1.27 1.28 1.42 1.5 1.78 2.08 2.43 สัปดาห์ก่อนหน้า (7 พ.ย. 68) 1.25 1.26 1.27 1.41 1.52 1.77 2.09 2.45 เปลี่ยนแปลง (basis point) 1 1 1 1 -2 1 -1 -2