นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มาสเตอร์ สไตล์ [MASTER] กล่าวว่าแนวโน้มการดำเนินงานในไตรมาส 4/68 คาดจะชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่เทียบไตรมาส 3/68 คาดทรงตัว อย่างไรก็ตามช่วงเดือนพ.ย. ธ.ค. หากกลุ่มลูกค้าต่างชาติไม่ได้มีเหตุการณ์ไม่ปกติเพิ่มเติมอาจทำให้เติบโตกว่าไตรมาส 3/68 เล็กน้อย
ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนกับพันธมิตร ในไตรมาส 3/68 เริ่มปรับตัวดีขึ้นจากช่วงก่อนหน้า แต่ยังไม่ฟื้นเต็มศักยภาพ เนื่องจากบางแห่งยังอยู่ในช่วงของการลงทุน และได้รับผลกระทบจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังชะลอ อย่างไรก็ตามหลายแห่งเริ่มเห็นสัญญาณบวกด้านประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดย V Square จะขาดทุนลดลงในไตรมาส 4/68 ขณะที่ภาพรวมส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนมีโอกาสฟื้นต่อเนื่องในไตรมาส 4/68 หากสภาพเศรษฐกิจและดีมานด์กลับมา และจะกลับมามีกำไรอย่างชัดเจนในปี 69 ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายกำไรจากการลงทุนในปี 68 ราว 20-30 ล้านบาท
นางสาวลภัสรดา กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังปี 68 โดยปกติจะเป็นช่วง High Season ของบริษัท แต่ปีนี้มีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้จากลูกค้าต่างชาติลดลง โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ที่มีสัดส่วนรายได้ 35% ของรายได้กลุ่มลูกค้าต่างประเทศ เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในประเทศ และในกัมพูชาซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 1% จำนวนเข้าใช้บริการลดลงจากความขัดแย้งชายแดนไทย อย่างไรก็ตามบริษัทยังมุ่งเน้นการรุกตลาดต่างประเทศ โดยจะมีความร่วมมือพันพันธมิตรมากขึ้น ซึ่งไตรมาส 1/69 จะเห็นความชัดเจน
ทั้งนี้ ประเมินภาพรวมทิศทางการดำเนินงานในปี 69 ยังมุ่งเน้นการสร้างกำไรให้เติบโตอย่างยั่งยืน และมองว่าจะมีอัตราการเติบโตของรายได้อยู่ที่ 10% ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมมองว่ากำลังซื้อยังคงมีอยู่ แม้ว่าจะลดน้อยลงทำให้ค่าเฉลี่ยการใช้บริการต่อบิลของลูกค้าในไทยลดลง แต่รายได้กลุ่มลูกค้าต่างชาติยังเติบโตสูง
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมศัลยกรรมและเสริมความงาม (Industry Overview) โดยช่วงปี 68-69 อยู่ในระยะฟื้นตัว ภายใต้ภาวะการใช้จ่ายของผู้บริโภคไทยที่ระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะในบริการที่ไม่จำเป็นเร่งด่วน ทำให้ตลาดภายในประเทศเติบโตช้ากว่าที่ประมาณไว้ แม้ความต้องการซื้อในกลุ่มศัลยกรรมความงามยังคงมีอยู่ในระยะยาว ทั้งนี้ สอดคล้องกับรายงานของศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่ประเมินว่าตลาดในประเทศยังมีฐานผู้บริโภคขนาดใหญ่ แต่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อยู่ในจุดอ่อนตัว อย่างไรก็ตาม ความต้องการศัลยกรรมเฉพาะทางซึ่งเป็นบริการหลักของอุตสาหกรรมยังคงมีแนวโน้มเติบโต โดยเฉพาะกลุ่มศัลยกรรมจมูก โครงหน้า และการผ่าตัดแก้ไขที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ดังนั้น มองว่าอุตสาหกรรมศัลยกรรมและเสริมความงาม ยังมีแนวโน้มการเติบโตระยะยาวจากความต้องการศัลยกรรมคุณภาพสูง และการกลับมาของกลุ่มลูกค้าต่างชาติ แม้ว่าตลาดในประเทศจะชะลอตัว แต่โครงสร้างตลาดที่ให้ความสำคัญกับบริการเฉพาะทางและการเติบโตของตลาด Medical Tourism ยังเป็นแรงหนุนสำคัญที่ช่วยกระจายความเสี่ยง และสนับสนุนรายได้ของผู้ประกอบการในระยะต่อไป
นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานกรรมการบริหาร MASTER เปิดเผยว่า บริษัทคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานจะเริ่มฟื้นตัวในปีหน้า จากผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 68 สะท้อนภาพความท้าทายของสภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว
ทั้งนี้ ในปี 69 บริษัทเตรียมเดินหน้าขับเคลื่อนแผนกลยุทธ์เชิงรุก ควบคู่กับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ คาดว่าจะช่วยผลักดันให้ผลประกอบการในปีหน้าฟื้นตัวจากปี 68 ที่มีแนวโน้มทรงตัว ท่ามกลางความท้าทายบริษัทยังมีปัจจัยบวกที่สำคัญ คือ การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของฐานลูกค้าต่างประเทศ โดยเฉพาะจากอินโดนีเซีย ซึ่งรายได้จากลูกค้าต่างชาติในไตรมาส 3/68 เติบโตถึง 8.76% (YoY)
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาลอยู่ที่ 1,415.30 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 151.91 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้ลดลง เพราะรายได้จากการศัลยกรรม และรายได้จากการดูแลหลังจากศัลยกรรมลดลง อย่างไรก็ตาม ยังมีการเพิ่มขึ้นจากรายได้การดูแลผิวพรรณ และรายได้จากการปลูกผมดูแลเส้นผมที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นเข้ามาช่วยสนับสนุน
"คาดว่าความต้องการจากต่างชาติจะเป็นแรงสนับสนุนหลักในไตรมาส 4 ขณะที่ฝั่งในประเทศคาดว่าจะทยอยปรับดีขึ้นตามกำลังซื้อ และการออกโปรโมชั่นเชิงกลยุทธ์ โดยบริษัทจะให้ความสำคัญกับการควบคุมต้นทุน การบริหารแพทย์ และการรักษาการเติบโตของกลุ่มบริการมาร์จิ้นสูง"นางสาวลภัสรดา กล่าวนางสาวลภัสรดา กล่าวว่า กลุ่มลูกค้าต่างชาติยังถือเป็นกลุ่มที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเคสสูงกว่าลูกค้าในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มที่เดินทางเข้ามาเพื่อรับบริการศัลยกรรมเฉพาะทาง มีแนวโน้มเติบโตแบบปีต่อปีอย่างต่อเนื่อง และเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ช่วยประคองรายได้ และอัตรากำไรในใตรมาสที่ผ่านมา ทั้งนี้ MASTER ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากลูกค้าต่างชาติให้แตะระดับ 30% ของรายได้รวมในระยะกลาง ซึ่งอยู่ในทิศทางที่เป็นไปได้ตามสภาพตลาดในภูมิภาคและจุดแข็งด้านคุณภาพการให้บริการของบริษัทฯ