CONSENSUS: BCPG กำไร Q4 แกร่ง! รับโรงไฟฟ้าสหรัฐ-ลาวหนุน ชี้ P/E ต่ำ-ปันผลสูงสุดกลุ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 19, 2025 16:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

CONSENSUS: BCPG กำไร Q4 แกร่ง! รับโรงไฟฟ้าสหรัฐ-ลาวหนุน ชี้ P/E ต่ำ-ปันผลสูงสุดกลุ่ม

โบรกเชียร์ "ซื้อ" หุ้น บมจ.บีซีพีจี [BCPG] แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/68 โตต่อเนื่อง ได้แรงหนุนจากรายได้ค่าความพร้อมจ่ายโรงไฟฟ้าก๊าซสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในฤดูหนาว ปริมาณน้ำเขื่อนลาวยังดีมากจากฤดูฝนยาวนาน รวมถึงการรับรู้รายได้เต็มปีโครงการพลังงานลมมอนซูนในลาว อีกทั้งโครงการใหม่ในเวียดนามและไต้หวันมหนุนกำไรปกติปี 69 โตแกร่ง

BCPG ตั้งเป้าเพิ่ม EBITDA เท่าตัวใน 3 ปีจากแรงผลักดันของ New Business กลุ่ม Digital Infrastructure (Data center, Cloud service, Water management) และ Circular Economy ด้วยผลของกำไรเติบโตสูง ทำให้ D/E ratio ลดลงมากจาก 1.5x เมื่อสิ้นปี 66 เป็น 1.1x ปัจจุบัน เพิ่มโอกาสการลงทุนใหม่ รวมถึงโอกาสการจ่ายเงินปันผลที่เพิ่มขึ้น

ราคาหุ้น BCPG ปิดตลาดวันนี้ 7.35 บาท

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)

โกลเบล็ก ซื้อ 12.00

เอเซียพลัส Outperform 10.60

อินโนเวสท์ เอกซ์ Outperform 10.50

กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ซื้อ 10.00

ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล ซื้อ 10.00

หยวนต้า ซื้อ 10.00

ยูโอบี เคย์เฮียน ซื้อ 10.00

กรุงศรี ซื้อ 9.40

เคจีไอ Outperform 9.10

แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซื้อเก็งกำไร 8.50

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

นายอาศิส ภมรานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) มองแนวโน้มผลงาน BCPG เติบโตดี โดยเฉพาะในไตรมาส 4/68 ยังแข็งแกร่ง เนื่องจากปริมาณฝนตกค่อนข้างมาก ทำให้ระดับน้ำในเขื่อนอยู่ในระดับที่ดี แม้ปกติจะเป็นช่วงนอกฤดูกาลของโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว แต่ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา (ต.ค.-พ.ย. 68) ยังสามารถเดินเครื่องได้ใกล้เคียงกับไตรมาส 3/68 ซึ่งเป็นช่วงพีค ทำให้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าในลาวไม่ได้ปรับตัวลงไปมาก

ขณะที่โรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯ เข้าสู่ช่วงฤดูหนาว เป็นปัจจัยหนุนให้ส่วนต่างราคาพลังงานยังปรับตัวได้ดี และภาพรวมผลประกอบการยังได้แรงหนุนจากโครงการพลังงานลมมอนซูนใน สปป.ลาว ซึ่งรับรู้รายได้จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ครบ หนุนให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/68 ของโครงการนี้พลิกกลับมาบวกได้

"ในช่วงไตรมาส 4 ปกติผลการดำเนินงานลดลง แต่ในไตรมาส 4/68 อาจไม่ได้ปรับตัวลง และอาจดีขึ้นด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยบวกระยะสั้น"นายอาคิส กล่าว

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานปี 68 คาดการณ์กำไรเติบโต 34% จากปี 67 โดยหลักจากโครงการโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ ที่รับรู้รายได้จาก Capacity Payment เพิ่มขึ้นมาใกล้ระดับ 300 เหรียญสหรัฐ/เมกะวัตต์/วัน และในปี 69 จะปรับเพิ่มเป็น 320 เหรียญสหรัฐ/เมกะวัตต์/วัน และปีนี้มีมรสุมเข้าทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนค่อนข้างดี

ขณะที่ในปี 69 BCPG จะรับรู้รายได้จากค่าความพร้อมจ่าย (Capacity Payment) ของโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ เต็มปี จากปีนี้ที่รับรู้ราว 5 เดือน ขณะเดียวกันก็จะรับรู้รายได้จากโครงการพลังงานลมมอนซูนเต็มปีด้วย คาดการณ์ EBITDA ปี 69 เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 400-500 ล้านบาท

ปัจจุบันราคาหุ้น BCPG ลงมาจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น แต่แนวโน้มตั้งแต่ในไตรมาส 4/68 ต่อเนื่องจนถึงปีหน้า ผลการดำเนินงานยังดีอยู่ โดยเฉพาะในไตรมาสสุดท้ายของปีที่โดยปกติผลงานจะย่อตัวจากไตรมาส 3 แต่ปีนี้คาดว่าจะไม่ลดลง จึงแนะ "ทยอยซื้อสะสม" ได้ ให้ราคาเป้าหมาย 10.00 บาท

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามคือความผันผวนของ Spark Spread ในสหรัฐฯ และปริมาณน้ำในเขื่อนของ สปป.ลาว ในปีหน้า

ขณะที่ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุว่า BCPG ได้จัดประชุมนักวิเคราะห์หลังประกาศงบไตรมาส 3/68 ประเด็นสำคัญคือโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯ ยังเป็นแรงหนุนกำไรต่อเนื่อง

BCPG ตั้งเป้าหมาย EBITDA ปีหน้าเติบโตสูง +18.5% YoY จากคาด 4.9 พันล้านบาทปีนี้เป็น 5.8 พันล้านบาท หลักๆ จากการเติบโตสูงของโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯ เพิ่มสัดส่วนเดิม 41% เป็น 48% หรือคิดเป็นกำไรส่วนเพิ่มราว 800 ลบ. ซึ่งมาจาก Capacity revenue 270 เหรียญสหรัฐ/MW-Day (ปี 68/69) เป็น 329 เหรียญสหรัฐ(ปี 69/70)

BCPG มองว่า Capacity revenue พื้นที่ PJM ยังเพิ่มขึ้นได้อีกใน 3 ปีข้างหน้าตามความต้องการไฟฟ้ากลุ่ม Data centers แต่โรงไฟฟ้าก๊าซสร้างใหม่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 7 ปี ซึ่งความไม่สมดุลระหว่าง Demand-Supply ยังจะช่วยหนุน Spark Spread ให้เพิ่มขึ้นด้วย ในปีหน้ากำไรยังถูกหนุนจากการรับรู้ Wind Farm เวียดนามเต็มปี คาดปิดดีล M&A ได้ใน 1-2 เดือนข้างหน้า และคาดเริ่มรับรู้ Solar ที่ไต้หวันช่วง มิ.ย.เป็นต้นไป ตามการทยอยสร้างเสร็จ 250 MW

ในระยะยาว BCPG ตั้งเป้าเพิ่ม EBITDA เท่าตัวใน 3 ปีข้างหน้าจาก New Business .oกลุ่ม Digital Infrastructure (Data center, Cloud service, Water management) และ Circular Economy ด้วยผลของกำไรที่เติบโตสูง ทำให้ D/E ratio ลดลงมากจาก 1.5x เมื่อสิ้นปี 66 เป็น 1.1x ปัจจุบัน เพิ่มโอกาสการลงทุนใหม่ รวมถึงโอกาสการจ่ายเงินปันผลที่เพิ่มขึ้น

แนวโน้มไตรมาส 4/68 ดีกว่าที่คาดก่อนหน้า จากโรงไฟฟ้าพลังน้ำในลาว Capacity factor (CF) ไตรมาส 4/68 สูงถึง >90% (vs. 97% ไตรมาส 3/68, vs. 61% ไตรมาส 4/67) เมื่อรวมกับ Capacity revenue ที่เพิ่มขึ้น YoY ของโรงก๊าซสหรัฐฯ และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเต็มไตรมาสของ Monsoon (Wind ในลาว) 289.5 MWe ซึ่งเข้าสู่ High season CF 40-45% vs. 15.7% ไตรมาส 3/68 ทำให้เราคาดกำไรปกติ ไตรมาส 4/68F โดดเด่นต่อเนื่อง เพิ่มขึ้นมาก YoY

เราคงคำแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" มองว่าโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯ ยังเป็นแรงหนุนกำไรต่อเนื่องอย่างน้อยใน 3 ปีข้างหน้า แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/68 ดีกว่าที่ประเมินก่อนหน้า คาดเติบโตสูง YoY ขณะที่กำไรปีหน้าก็เติบโตสูงกว่ากลุ่มฯ ทั้งจากโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯ การรับรู้ Monsoon เต็มปีและโครงการใหม่ (Wind ที่เวียดนาม และ Solar ที่ไต้หวัน)

บทวิเคราะห์ บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ มองว่า BCPG มีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นจากกำไรปกติไตรมาส 3/68 แข็งแกร่งตามที่เราคาดการณ์ โดยอยู่ที่ 711 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่เราคาดการณ์ไว้ เพิ่มขึ้นถึง 57% YoY และ 440% QoQ

ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งได้แรงหนุนหลักมาจากการรับรู้ผลประโยชน์เต็มไตรมาสจากค่าความพร้อมจ่ายที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ ช่วยหนุนให้กำไรเพิ่มขึ้นราว US$4 ล้าน/เดือน (หลังหักภาษี) ในไตรมาส 3/68 นอกจากนี้ยังมีปัจจัยหนุนจากการเพิ่มขึ้นของ spark spread และปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเป็น 1,621 GWh ในไตรมาส 3/68 (-2.3% YoY แต่ +10.1% QoQ) Capacity factor เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 89% เนื่องจากไม่มีการหยุดซ่อมบำรุง

นอกจากนี้โรงไฟฟ้าพลังน้ำก็มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปริมาณน้ำเข้าเขื่อนที่เพิ่มขึ้นและฤดูฝนที่ยาวนานขึ้น

ปัจจัยกระตุ้นที่ 2 แนวโน้มกำไรปกติแข็งแกร่ง คาดว่ากำไรปกติของ BCPG จะเติบโต 31% ในปี 68 และ 30% ในปี 69 หลักๆ ได้แรงหนุนจากการรับรู้รายได้ค่าความพร้อมจ่ายที่เพิ่มขึ้นมากจากโรงไฟฟ้า CCGT ในสหรัฐฯ กำลังการผลิตรวม 857 MW ในรัฐโอไฮโอและเพนซิลเวเนียในครึ่งปีหลัง/68 และปี 69

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยหนุนจากการเริ่ม COD โรงไฟฟ้าพลังงานลม Monsoon ขนาด 290 MW ในลาว (COD: ไตรมาส 3/68), กำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม 99 MW ในเวียดนาม (COD: ไตรมาส 4/68) และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 108 MW ในไต้หวัน (COD: ครึ่งปีหลัง/69)

ปัจจัยกระตุ้น 3 ได้รับประโยชน์จากวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง นักเศรษฐศาสตร์ของเรามองว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 1 ครั้งในไตรมาส 4/68 และ 2 ครั้งในปี 69 การวิเคราะห์ของเราชี้ให้เห็นว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะเป็นผลดีต่อกลุ่มสาธารณูปโภค ซึ่งเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูงและมีสัดส่วนการกู้ยืมที่สูง (โดยทั่วไปแล้วอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 3:1)

ทั้งนี้ BCPG มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยรวม 2.83 หมื่นล้านบาท (ณ สิ้น ไตรมาส 3/68) โดย 20.8% มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัว การวิเคราะห์ความอ่อนไหวบ่งชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงทุกๆ 0.50% จะทำให้กำไรปกติปี 69 ของ BCPG เพิ่มขึ้น 2.4%ก

เรายังคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ BCPG จากโมเมนตัมกำไรที่แข็งแกร่ง ได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นอย่างมากของรายได้ค่าความพร้อมจ่ายจากโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ และการเริ่ม COD โครงการต่างๆ ในแผนงาน

นอกจากนี้ BCPG ยังซื้อขายที่ PE ปี 69 เพียง 12.1 เท่า (ต่ำที่สุดในกลุ่ม เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 17.9 เท่า) และให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงสุดที่ 4.1% เราคงราคาเป้าหมายกลางปี 69 ไว้ที่ 10.5 บาท โดยอิงกับวิธี DCF (WACC 6.8% และการเติบโตระยะยาว 0.5%)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ