มองมุมต่าง: MSCI ลดน้ำหนักหุ้นไทย เมื่อ Market Cap และ วอลุ่มเทรดไม่พอรับเงินต่างชาติ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 21, 2025 16:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

มองมุมต่าง: MSCI ลดน้ำหนักหุ้นไทย เมื่อ Market Cap และ วอลุ่มเทรดไม่พอรับเงินต่างชาติ

-MSCI กำหนดน้ำหนักลงทุนในตลาดหุ้นอย่างไร

โดยหลักแล้ว MSCI EM หรือ MSCI Thailand มักจะใช้การอิงจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้

1.มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) ที่ปรับ Free Float ที่คำนวณเฉพาะหุ้นที่สามารถซื้อขายได้จริงในตลาด โดย ตัดหุ้นที่ไม่หมุนเวียนออกรวมถึง Foreign Limit Adjusted Market Cap ที่เป็นการคำนวณมาร์เก็ตแคปสำหรับ นักลงทุนต่างชาติ โดยคำนึงถึง สัดส่วนที่นักลงทุนต่างชาติสามารถถือหุ้นได้จริง เนื่องจากหลายประเทศ รวมถึงประเทศ ไทยมี Foreign Ownership Limit (FOL)

มองมุมต่าง: MSCI ลดน้ำหนักหุ้นไทย เมื่อ Market Cap และ วอลุ่มเทรดไม่พอรับเงินต่างชาติ

โดยจะเลือกเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ (Big cap) และหุ้นขนาดกลาง (Mid cap) ที่เข้าเกณฑ์ของขนาดมาร์เก็ตเคป ,สภาพคล่อง, Free float เป็นส่วนประกอบ

จากที่สังเกตเห็น จะพบว่าหุ้นไทยที่เข้าเกณฑ์ มักมีมูลค่าเท่าไรเมื่อเทียบกับหุ้นทั้งกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (EM) ถ้าหากน้อยลง สัดส่วนของหุ้นไทยก็ต้องถูกปรับลดโดยอัตโนมัติ

2.เม็ดเงินลงทุน คิดเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ (USD)

ดัชนี MSCI คำนวณผลตอบแทนและมูลค่าตลาดรวม ในรูป USD ดังนั้นถ้า เงินบาทอ่อน แต่ราคาหุ้นไม่ปรับขึ้นเพื่อชดเชย มูลค่าในสายตา MSCI ที่เป็นเงินสกุล USD ก็ยิ่งทำให้เล็กลงไปอีก

3.ต้องผ่านเกณฑ์ ความสามารถลงทุนได้จริง (Investability)

ประเด็นนี้ถือเป็นเกณฑ์หลัก เพราะนักลงทุนทั่วโลกที่ลงทุนหุ้นในตระกร้าของ MSCI ล้วนจะมีความมั่นใจในเรื่องของ สภาพคล่อง, ปริมาณซื้อขาย, Foreign Ownership Limit, โครงสร้างหุ้น Local-Foreign- NVDR ที่จะทำให้ผู้ลงทุน สามารถซื้อได้ และขายได้ในจำนวนที่ต้องการ

ไม่มีนักลงทุนใด หรือกองทุนใด ที่ต้องการแค่การซื้อหุ้นได้ แต่สิ่งสำคัญ คือ ต้องมีสภาพคล่องที่จะรองรับแรงขายได้ กล่าวคือ หุ้นที่ซื้อได้ ก็ต้องขายได้ ไม่ใช่ไม่มีbid จนทำให้ต้องใช้เวลาหลายวัน หรือหลายสัปดาห์ในการเทขายหุ้นจนหมด

ถ้าตลาดหุ้นไทย เล็กลงเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน การมีสภาพคล่องต่ำ โครงสร้างการลงทุนที่ยาก bid-offer บาง ดัชนี MSCI ก็ต้อง "ลดน้ำหนักหุ้นไทย" ตามสูตรโดยอัตโนมัติ

-ปัจจัยหลักที่ทำให้ MSCI ลดน้ำหนักหุ้นไทยลง

ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา SET INDEX ปรับตัวลดลง ประมาณ 30% ทำให้ถูกจัดเป็นหนึ่งในตลาดหุ้นที่ผลงานย่ำแย่ที่สุดในโลก จากแถวๆ 1,600 จุด ลงมาต่ำกว่า 1,100 จุด

ผลพวงมาจาก น้ำหนักหุ้นไทยในดัชนี MSCI EM เคยมีจุดสูงสุดเกือบ 3%

แต่ล่าสุด กลางปี 2568 MSCI EM ลดเหลือประมาณ 1% จากที่เคยอยู่ในจุดสูงสุด 2.87% ในปี 2019 ในขณะที่ MSCI Global เหลืออยู่ที่ 0.11%

พูดง่าย ๆ คือ ตลาดหุ้นเราหดลดลงเอง เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นประเทศอื่น จึงทำให้น้ำหนักต้องลดลงอัตโนมัติ

-หุ้นไทยวอลุ่มบาง ไม่ผ่านเกณฑ์สภาพคล่อง MSCI

เหตุผลของการลงทุนที่ชี้ตรงกันว่า "สภาพคล่อง"คื อหนึ่งในต้นเหตุสำคัญ ของความน่าสนใจของแต่ละตลาดหุ้น

สภาพคล่องหาย เป็นต้นเหตุให้ตลาดหุ้นไทยเหลือสัดส่วนใน MSCI EM เพียง 1% และเหลือหุ้นที่ถูกถ่วงน้ำหนักแค่ 27 ตัว มูลค่า 98,764 ล้านดอลลาร์ จากเดิม 154,767 ล้านดอลลาร์

การลดน้ำหนักไทยของ MSCI และ FTSE มีเหตุผลร่วมกันคือ มูลค่าตลาดรวมลดลง กับ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง ทำให้หุ้นดูไม่น่าสนใจในมุมของนักลงทุนต่างชาติ

นอกจากนี้ MSCI มีเกณฑ์เชิงตัวเลขสำหรับ "สภาพคล่องขั้นต่ำ" ถ้าหุ้นไหน เทรดบางเกิน หรือปริมาณซื้อขายไม่ถึงเกณฑ์ต่อเนื่อง ก็อาจถูก ลดน้ำหนัก หรือถูกย้ายลงไปอยู่ใน Small Cap หรือในที่สุดถูกถอดออกจากดัชนีไปเลย

เมื่อจำนวนหุ้นไทยในดัชนีที่ลดลง ประกอบกับ สภาพคล่องรวมต่ำลง น้ำหนักรวมของหุ้นไทย ก็ถูกหั่นตามกลไก

-หุ้นไทยโดนลดน้ำหนักในรอบของการรีบาลานซ์

เวลา MSCI Rebalance เขาจะไม่ได้แค่เพิ่มลดน้ำหนักประเทศ แต่จะเปลี่ยนรายชื่อหุ้น และสัดส่วนหุ้นรายตัว ด้วย ซึ่งไทยโดนหลายครั้งติดต่อกัน

ล่าสุด ในช่วงเย็นของวันที่ 24 พฤศจิกายน2568 ก่อนปิดตลาดหุ้น จะมียอดการลดน้ำหนักการลงทุนใน MSCI (Outflow) จำนวน 84.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยแบ่งเป็น Total Buy จำนวน 9.1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ และ Total Sell จำนวน 93.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เม็ดเงินที่ไหลออกจากการรีบาลานซ์ในครั้งนี้ ไม่ได้มากมายอะไร แต่ถือเป็นการส่งสัญญาณการลดน้ำหนักการลงทุนเรื่อย ๆ

ในขณะที่ ประเทศอื่นโตเร็วกว่าเรา โดยเฉพาะตลาดหุ้น อินเดีย โดยสัดส่วนของตลาดหุ้นไทยถูก "เบียด" และบังคับให้เป็นแบบนี้

เนื่องจาก น้ำหนักใน MSCI เป็น แข่งขันกันในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ถ้าตลาดหุ้นเรานิ่ง แต่เพื่อนโตเร็วกว่า น้ำหนักเราก็หดลงโดยอัตโนมัติ

ตลาดอินเดีย และตลาดอื่นใน EM ช่วงหลายปีหลัง ให้ผลตอบแทนที่เป็นบวก มีหุ้นไอพีโอขนาดใหญ่ มีเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้า ทำให้ Market Cap ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ

สำหรับเหตุผล ของการที่หุ้นไทยถูกลดน้ำหนักในดัชนี เป็นผลจากตลาดหุ้นอินเดียถูกเพิ่มน้ำหนักการลงทุน นั่นเอง

ดังนั้น การลดน้ำหนักหุ้นไทย ส่วนหนึ่งคือ MSCI ขยับไปเพิ่มน้ำหนักประเทศที่เติบโตแซงหน้าเรา โดยใช้สูตรเดียวกัน กับทุกตลาดหุ้น

-หุ้นใหญ่ไอพีโอที่ดึงดูดเงินฝรั่งหายไป

ตลาดหุ้นไทยไม่มีหุ้นไอพีโอขนาดใหญ่ มาช่วยเพิ่มมูลค่าตลาดรวมในขณะที่ประเทศอื่นมีดีลใหญ่เข้าตลาดต่อเนื่อง

ในจังหวะที่ มูลค่าตลาดรวมลดลง กับหุ้นไอพีโอขนาดใหญ่ไม่มี แต่ตลาดหุ้นอื่นโตและมีหุ้นใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ MSCI จึงต้องกระจายน้ำหนักไปยังประเทศอื่นแทน

-ปัจจัยเศรษฐกิจการเมืองกำไรบจ. กด Sentiment ระยะยาว

น้ำหนัก MSCI มาจาก ผลลัพธ์สุดท้าย คือ"มูลค่า" กับ "สภาพคล่อง" แต่เบื้องหลังคือ"ปัจจัยพื้นฐาน"

ความกังวลเรื่อง เศรษฐกิจโตช้า โครงสร้างเศรษฐกิจ การเมือง กดดัน ให้ต่างชาติมองไทยเป็นตลาดที่ "ไม่จำเป็นต้อง Overweight"

ในปี 2024-ปัจจุบัน มีเม็ดเงินต่างชาติไหลออกจากภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะ ASEAN รวมถึงประเทศไทย อย่างมาก จากความเสี่ยงสงครามการค้า และอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าตลาดพัฒนาแล้ว ทั้งที่เป็นประเทศกำลังพัฒนา ทำให้ราคาหุ้นในภูมิภาคถูกกดดันหนัก โดยหุ้นไทยอยู่ในกลุ่มที่โดนขายสุทธิอันดับต้น ๆ

เมื่อราคาหุ้นถูกกดต่อเนื่อง ผลคือ Market Cap หด น้ำหนักใน MSCI ก็ยิ่งลดลงตาม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ