รายงานข่าวจาก บลจ.บัวหลวง (BBLAM) เปิดเผยว่า ในปีนี้เศรษฐกิจโลกได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆ เช่น ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนผ่านนโยบายของผู้นำประเทศมหาอำนาจ รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจในหลายภูมิภาค ส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกผันผวนและยากต่อการคาดการณ์มากกว่าปีก่อนๆ การจัดพอร์ตเพื่อลดหย่อนภาษี จึงมีความสำคัญกับการลงทุน ควบคู่กับการคัดเลือกสินทรัพย์ที่มีศักยภาพสร้างผลตอบแทนในระยะยาว
BBLAM เสนอแนวทางจัดพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมกับบริบทเศรษฐกิจโลกที่ยังคงเผชิญความไม่แน่นอนต่อเนื่องหลายด้าน โดยมุ่งเน้นการจัดสรรเงินลงทุนแบบสมดุลระหว่างความมั่นคงและโอกาสการเติบโต ผ่านตราสารหนี้คุณภาพ กองทุนหุ้นกระจายภูมิภาค ธีมเทคโนโลยี และสินทรัพย์ทางเลือก อย่างทองคำ เพื่อช่วยลดความผันผวนรวมของพอร์ตในปีที่ความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ยังสูง
สำหรับแนวทางจัดพอร์ตเพื่อลดหย่อนภาษีปีนี้ เน้นความมั่นคงเป็นฐานกระจายความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ
1) กองทุนตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน เสริมความมั่นคงให้พอร์ต
BBLAM แนะนำกองทุน B-SI-THAIESG เป็นกองทุนหลักสำหรับการวางแผนลดหย่อนภาษีปีนี้ ด้วยแนวทางการลงทุนในตราสารภาครัฐไทยด้านความยั่งยืน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2568) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 8.19% ต่อปี สูงกว่าดัชนีชี้วัดที่ 7.23% ต่อปี เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการความมั่นคงในภาวะตลาดผันผวน
2) กองทุนหุ้นคุณภาพทั่วโลก เพิ่มโอกาสเติบโตในระยะยาว
เพื่อให้พอร์ตมีความสมดุล BBLAM แนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในกองทุน RMF ที่กระจายไปในหุ้นคุณภาพทั่วโลก ได้แก่
- B-GLOBALRMF (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2568) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 14.15% ต่อปี เมื่อเทียบกับดัชนีชี้วัด อยู่ที่ 16.50% ต่อปี
- B-ASIARMF (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2568) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 23.06% ต่อปี เมื่อเทียบกับดัชนีชี้วัด อยู่ที่ 24.82% ต่อปี
โดยทั้ง 2 กองทุนช่วยกระจายความเสี่ยงและเปิดรับโอกาสการเติบโตในตลาดที่มีปัจจัยสนับสนุนแตกต่างกัน
3) กลุ่มเทคโนโลยี ธีมการลงทุนระยะยาวที่ยังมีศักยภาพ
กองทุน B-INNOTECHRMF เน้นลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับโลก ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2568) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 21.59% ต่อปี เมื่อเทียบกับดัชนีชี้วัด ซึ่งอยู่ที่ 24.62% ต่อปี
4) ทองคำ ช่วยลดความผันผวนของพอร์ตโดยรวม
เพื่อเสริมเสถียรภาพให้กับพอร์ต BBLAM แนะนำกองทุน BGOLDRMF ซึ่งลงทุนใน SPDR Gold Trust (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2568) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 34.99% ต่อปี เมื่อเทียบกับดัชนีชี้วัด ซึ่งอยู่ที่ 40.55% ต่อปี เหมาะสำหรับปีที่มีความไม่แน่นอนสูง
ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์ทางภาษีปี 2568 ที่ควรพิจารณา โดยต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากรอย่างเคร่งครัด ซึ่งผู้ลงทุนสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 800,000 บาท โดยแบ่งเป็น
- กองทุน Thai ESG สูงสุด 300,000 บาท (ถือขั้นต่ำ 5 ปี)
- กองทุน RMF สูงสุด 500,000 บาท (ลงทุนต่อเนื่อง 5 ปี และขายคืนได้เมื่ออายุ 55 ปีขึ้นไป)
BBLAM ตอกย้ำความสำคัญของการทบทวนพอร์ตตามช่วงอายุและเป้าหมายของผู้ลงทุน โดยจากงานสัมมนา "โค้งสุดท้าย ลดหย่อนภาษีอย่างไรให้เท่าทันสถานการณ์" ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างธนาคารกรุงเทพ และ BBLAM ที่จัดขึ้นที่ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ BBLAM ยังคงเน้นย้ำการจัดสัดส่วนพอร์ตให้เหมาะสมกับช่วงอายุ และการบริหารเงินให้บรรลุเป้าหมายอิสรภาพทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญ ประกอบกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้เปลี่ยนแปลงไป ตามภาระทางการเงินและวัตถุประสงค์การลงทุนที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล
สรุปแนวทางสำหรับผู้ลงทุนในช่วงสิ้นปี BBLAM พร้อมให้คำปรึกษา เพื่อช่วยให้ผู้ลงทุนวางแผนการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ความต้องการทางการเงินในทุกช่วงของชีวิต อีกทั้งแนะนำให้ผู้ลงทุนพิจารณา จัดพอร์ตโดยมีตราสารหนี้คุณภาพเป็นฐาน กระจายการลงทุนในหุ้นคุณภาพทั่วโลก เพื่อเพิ่มโอกาสเติบโต เพิ่มน้ำหนักหุ้นเทคโนโลยีตามธีมอนาคต ใช้ทองคำเป็นตัวช่วยลดความผันผวน และใช้สิทธิลดหย่อนภาษีให้ครบถ้วนก่อนสิ้นปี