เมื่อเวลา 10.28 น. SPRC ร่วง 8.06% ลดลง 0.50 บาท มาที่ 5.70 บาท มูลค่าการซื้อขาย 88.72 ล้านบาท
TOP ลบ 2.74% ลดลง 1.00 บาท มาที่ 35.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 285.91 ล้านบาท
บล.กรุงศรี ระบุว่า น้ำมันดิบ Brent -1.40% d-d ปิดที่ US$ 62.48/barrel น้ำมันดิบ West Texas -1.51% d-d ปิดที่ US$ 57.95/barrel แรงกดดันมาจากข่าวยูเครนได้ยอมรับกรอบข้อตกลงสันติภาพที่สหรัฐเป็นผู้ไกล่เกลี่ย ซึ่งอาจเป็นก้าวสำคัญในการยุติสงครามที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 4 ปีและจะปูทางให้มีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย ส่งผลให้รัสเซียสามารถส่งออกน้ำมันเข้าสู่ตลาดโลก
มองเป็นจิตวิทยาลบต่อหุ้นที่มีธุรกิจเป็นน้ำมัน หลัก ๆ คือ PTTEP ,PTT และกลุ่มโรงกลั่น TOP, BCP,SPRC วันนี้ ในทางตรงข้ามมองบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Anti commodity อาทิกลุ่มวัสดุก่อสร้าง TASCO, TOA กลุ่มสายการบิน อาทิTHAI, AAV แนะนำเพียง Trading
ด้านบล.หยวนต้า ระบุว่า กระแสข่าวต่างประเทศรายงานว่าการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ vs ยูเครนที่ประเทศ UAE มีพัฒนาการที่ดี โดยยูเครนส่งสัญญาณตอบรับข้อเสนอยุติสงครามฉบับแก้ไขแล้ว โดยช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาสหรัฐฯ vs ยูเครนได้จัดทำร่างแผนสันติภาพใหม่ ปรับลดรายละเอียดจาก 28 ข้อเหลือ 19 ข้อ ขณะที่รายละเอียดในจุดที่เป็นประเด็นอ่อนไหวจะรอการตัดสินใจของผู้นำประเทศ ซึ่งจะพบปะกันเร็ว ๆ นี้
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวดังกล่าวยังไม่ระบุถึงรายละเอียดในข้อตกลง รวมถึงยังไม่มีข้อมูลว่ารัสเซียได้เข้าร่วมประชุมและเห็นด้วยกับข้อตกลงดังกล่าวหรือไม่
ขณะที่เช้านี้ API ประกาศสต็อกน้ำมันดิบสะสม 1.9 ล้านบาร์เรล แต่สต็อกน้ำมันสำเร็จรูปเบนซิน และน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 5-8 ล้านบาร์เรล
แม้ไม่เชื่อว่าจะไม่ง่ายที่รัสเซีย vs ยูเครนจะบรรลุข้อตกลงได้ในระยะเวลาอันใกล้ แต่ข่าวตัวดังตัวนี้ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามเพราะส่งผลต่อตลาดน้ำมันอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งสถานการณ์ยูเครนปัจจุบันอยู่ในช่วงท้าทายกว่าที่ผ่านมา
หากทั้ง 2 ฝ่ายบรรลุข้อตกลง หรือเกิดพัฒนาการเชิงบวก จะเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน เนื่องจากอุปทานน้ำมันรัสเซียอาจกลับเข้าสู่ตลาดได้ (เราประเมินว่าตั้งแต่เกิดสงคราม อุปทานรัสเซียหายไป 0.5-1.5 ล้านบาร์เรล/วัน) และ War risk premium คลายตัว
ดังนั้น คาดว่าราคาน้ำมันสัปดาห์นี้จะผันผวนสูง แนะนำรับความเสี่ยงได้น้อยอยู่ Wait & See หุ้น Oil play เพื่อรอความชัดเจน