สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (24 - 28 พฤศจิกายน 2568) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้) มีมูลค่ารวม 415,490 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 83,098 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 17% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 50% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 207,900 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออก โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออก โดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 164,132 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 22,014 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40% และ 5% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB284A (อายุ 2.4 ปี) LB294A (อายุ 3.4 ปี) และ LB303A (อายุ 4.3 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 22,936 ล้านบาท 16,827 ล้านบาท และ 15,667 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รุ่น TLT288B (AAA) มูลค่าการซื้อขาย 1,997 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) รุ่น BAM276A (A-) มูลค่าการซื้อขาย 1,545 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รุ่น TLT272A (AAA) มูลค่าการซื้อขาย 1,171 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวผันผวนประมาณ 3-7 bps. จากการคาดการณ์ของนักลงทุนว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีโอกาสมากขึ้นที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือน ธ.ค. นี้ ด้านปัจจัยต่างประเทศ เอสแอนด์พี โกลบอล รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ ประจำเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.8 จากระดับ 54.6 ในเดือนต.ค. จากการเพิ่มขึ้นของการจ้างงาน และคำสั่งซื้อใหม่ หลังสหรัฐฯ ยุติภาวะปิดหน่วยงานรัฐบาล ขณะที่รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (Beige Book) ว่าการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐฯ ลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นเดือนต.ค. ถึงกลางเดือนพ.ย. ราคาสินค้าในสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นปานกลาง ขณะที่ต้นทุนในภาคการผลิตและค้าปลีกเพิ่มขึ้นในวงกว้าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากต้นทุนที่สูงขึ้นจากภาษีนำเข้า
สัปดาห์ที่ผ่านมา (24 - 28 พฤศจิกายน 2568) กระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 9,773 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (ST) (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 1,768 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (LT) (อายุมากกว่า 1 ปี) 1 1,867 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ 325 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price Index)
เปลี่ยนเป็น ดัชนีหุ้นกู้เอกชน(MTM Corp Bond Gross Price Index) ตั้งแต่ ม.ค. 2565
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (24 - 28 พ.ย. 68) (17 - 21 พ.ย. 68) (%) (1 ม.ค. - 28 พ.ย. 68) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 415,490.03 355,183.42 16.98% 20,056,978.13 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 83,098.01 71,036.68 16.98% 90,346.75 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 113.19 113.30 -0.10% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (MTM Corp Bond Gross Price Index) 109.03 108.92 0.10% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (28 พ.ย. 68) 1.25 1.25 1.26 1.28 1.39 1.71 2.03 2.45 สัปดาห์ก่อนหน้า (21 พ.ย. 68) 1.25 1.26 1.27 1.35 1.42 1.71 1.99 2.4 เปลี่ยนแปลง (basis point) 0 -1 -1 -7 -3 0 4 5