นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ.กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ [GULF] กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 69 จะเติบโตต่อเนื่อง โดย EBITDA ขยายตัวราว 15% จากปี 68 จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 683 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจากการเติบโตโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติสหรัฐ Jackson Generation จากค่า Capacity Payment ที่ปรับเพิ่ม
ในปี 69 บริษัทเตรียมงบลงทุน 2.5-3.0 หมื่นล้านบาท โดย 30% จะใช้ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน อีก 60% ลงทุนในธุรกิจ New S-curve อาทิ Data Center, Cloud และ AI รวมทั้งลงทุนอื่น ๆ ซึ่งเงินลงทุนดังกล่าวจะมาจากกระแสเงินสด ออกหุ้นกู้ เงินกู้จากสถาบันการเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้ ในปี 69 บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ราว 6-7 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาชำระคืนหุ้นกู้ชุดเดิมที่จะครบกำหนดชำระ และลงทุนโครงการต่าง ๆ ตามแผนงาน เนื่องจากขณะนี้อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำและมีแนวโน้มปรับลดลง จะช่วยทำให้บริษัทมีต้นทุนทางการเงินที่ลดลงได้ด้
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาแบ่งการจ่ายเงินปันผลเป็น 2 ครั้งต่อปี อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับมติของคณะกรรมการบริษัท ซึ่งจะมีการแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบต่อไป
นางสาวยุพาพิน กล่าวอีกว่า ในปี 69 บริษัทจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในประเทศอีก 623 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โซลาร์ฟาร์ม 4 โครงการ รวม 321 เมกะวัตต์ โซลาร์ฟาร์มพร้อมแบตเตอรี่ 2 โครงการ รวม 302 เมกะวัตต์ คาด COD ช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค.69 ซึ่งรับรู้กำไรเพิ่มเข้ามาราว 600 ล้านบาทต่อปี
โครงการขยะชุมชน จ.เชียงใหม่ 10 เมกะวัตต์ มีกำหนด COD ในเดือน พ.ค. 69 รับรู้กำไรเพิ่มราว 120 ล้านบาท ต่อปี รวมทั้งโครงการโซลาร์รูฟท็อปที่จะทยอยเปิดดำเนินการ 50 เมกะวัตต์ รวมทั้งหมดที่จะมีการ COD ในปี 69 มีจำนวนรวม 683 เมกะวัตต์ ส่งผลให้บริษัทมีกำลังผลิตไฟฟ้ารวมเพิ่มเป็น 17,203 เมกะวัตต์
ขณะที่โครงการมอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน- นครราชสีมา คาดว่าจะเปิดให้บริการในไตรมาส 3/69
นอกจากนั้น โรงไฟฟ้าในสหรัฐจะช่วยให้ผลประกอบการดีขึ้นจากค่า Capacity Payment เพิ่มต่อเนื่องตามดีมานด์ความต้องการใช้ไฟฟ้าในธุรกิจ Data Center ที่เพิ่มขึ้น โดยปี 69 บริษัทคาดว่าจะรับรู้กำไรเพิ่มเข้ามา 1,200 ล้านบาท ส่วนธุรกิจ LNG วางแผนนำเข้า 70 ลำหรือราว 4-5 ล้านตัน ทำให้รับรู้กำไรเพิ่มขึ้นด้วย และบริษัทมีแผนทำ LNG Optimization เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างมูลค่าของการนำเข้า คาดจะสร้างกำไรราว 1,200-1,500 ล้านบาทจากธุรกิจนี้
ผลการดำเนินงานปี 69 ยังได้แรงหนุนจากส่วนแบ่งกำไรและเงินปันผลรับจาก บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส [ADVANC] ซึ่งมีทิศทางผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นตามการขยายฐานผู้ใช้บริการ 5G การเพิ่มขึ้นของ ARPU จากการเพิ่มบริการใหม่ ๆ ส่วนกลุ่มธุรกิจดิจิทัล ปัจจุบันอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการ GSA02 ซึ่งมีขนาด 38 เมกะวัตต์ คาดเปิดให้บริการในไตรมาส 1/70
นางสาวยุพาพิน กล่าวว่า แผนการลงทุน 5 ปี (ปี 69-73) บริษัทคาดว่าจะมีการลงทุน 1-1.2 แสนล้านบาท โดยเงินลงทุนประมาณ 70% ใช้ลงทุนให้โครงการพลังงานหมุนเวียน ซึ่งจะหนุนให้ EBITDA เติบโต 10-15% ต่อปี ทั้งนี้บริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่จะทยอย COD จากวันนี้จนถึงปี 76 นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนเข้าร่วมพัฒนาโครงการจากนโยบายภาครัฐ อาทิ Direct PPA 2,000 เมกะวัตต์ , โครงการโซลาร์ชุมชน 1,500 เมกะวัตต์