บอร์ด AOT ไฟเขียวผลเจรจาแก้สัญญาดิวตี้ฟรี 5 สนามบินคงเก็บ MG เท่าเดิม ขยายเวลาสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 3, 2025 10:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ท่าอากาศยานไทย [AOT] หรือ ทอท.เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ทอท. มีมติเห็นชอบผลการเจรจากับบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) เพื่อหาข้อตกลงแก้ไขปัญหาร้านค้าปลอดอากรในสนามบิน ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) ของคณะทำงานเจรจาฯ และอนุมัติให้ ทอท.แก้ไขสัญญาตามผลการเจรจาของคณะทำงานเจรจาฯ ต่อไป

สรุปสาระสำคัญ

ทอท.พิจารณาทางเลือกหลัก 2 แนวทางคือ การแก้ไขสัญญาเปรียบเทียบกับการยกเลิกสัญญาเพื่อเปิดประมูลใหม่ ซึ่งได้ข้อสรุปว่าทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดคือการแก้ไขสัญญา โดยปรับเงื่อนไขการอนุญาตให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง เพื่อให้ ทอท.สามารถให้บริการผู้โดยสารได้อย่างต่อเนื่อง รักษาผลประโยชน์ของ ทอท.ในระยะยาว และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ ทอท. โดยคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

(1) รักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจ ทอท.สามารถให้บริการผู้โดยสารได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีระดับการให้บริการ (Level of Service) ที่ดี โดยการให้บริการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรถือเป็นบริการที่สำคัญ กล่าวคือทอท.ไม่ต้องดำเนินการหาผู้ประกอบการรายใหม่ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาและงบประมาณ อีกทั้งยังมีความไม่แน่นอนจากการหาผู้ประกอบการรายใหม่มาทดแทน ซึ่งอาจใช้ระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 14 เดือน

(2) รายได้ที่มั่นคงกว่า กล่าวคือ ทอท.ยังคงได้รับค่าผลประโยชน์ตอบแทนอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีช่วงที่ขาดรายได้ในระหว่างการประมูลหาผู้ประกอบการรายใหม่ และจะทำให้สูญเสียรายได้จากการไม่มีผู้ให้บริการ

(3) ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากว่า กล่าวคือ จากผลการศึกษาพบว่า แนวทางการแก้ไขสัญญาจะให้ผลตอบแทนทางการเงินที่สูงกว่าผลตอบแทนขั้นต่ำในกรณีหาผู้ประกอบการรายใหม่ในสถานการณ์ปัจจุบัน และไม่ต่ำกว่าข้อเสนอของผู้ยื่นข้อเสนอลำดับสองที่ยื่นประมูลในครั้งก่อน

(4) ลดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ กล่าวคือ การยกเลิกสัญญานอกจากจะทำให้ ทอท.ขาดรายได้และLevel of Service ลดลงแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อภาพรวมการจ้างงานของผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง อันส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม แนวทางนี้เป็นกรณีที่โครงการสามารถดำเนินการต่อไปได้และลดความเสียหายที่อาจเกิดต่อเศรษฐกิจโดยรวมและอัตราการจ้างงานจากผู้ประกอบกิจการที่เกี่ยวข้อง

การเลือกแนวทางการแก้ไขสัญญาดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อ ทอท.มากกว่ากว่าการยกเลิกสัญญาแล้วเปิดประมูลใหม่ เพราะอาจทำให้ทอท.ขาดรายได้จากค่าผลประโยชน์ตอบแทนจนกว่าจะมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาแทน คาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 14 เดือน และรายใหม่อาจไม่สามารถให้ค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่ ทอท.ได้เท่าหรือสูงกว่าผู้ประกอบการรายปัจจุบัน (จากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจทั้งในระดับประเทศและในระดับโลก)

ทั้งนี้ ในแต่ละสัญญายังคงเงื่อนไขดังต่อไปนี้

1) การเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ (Minimum Guarantee : MG) โดย ทอท.จะยังคงได้รับค่า MG และค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำมีอัตราเติบโต 5% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศในอาเซียน

2) ส่วนแบ่งรายได้ 20% (Revenue Sharing)

3) ค่าผลประโยชน์ตอบแทนส่วนเพิ่ม (Upside) หากเข้าเงื่อนไขที่กำหนด

รายละเอียดของแนวทางการแก้ไขในแต่ละท่าอากาศยานดังนี้

1. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) แนวทางแก้ไข : ทอท.ยังคงการเรียกเก็บค่า MG ขั้นต่ำต่อหัวตามหลักการเดิม โดยเก็บเป็นรายปี (เทียบเท่า 232.90 บาท/คน และมีการเติบโต 5% ทุกปีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ทอท.เจรจาส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) ส่วนเพิ่มอีก 35% ของมูลค่าซื้อต่อผู้โดยสาร (Spending per Head) ส่วนเกิน ทำให้ ทอท.มีโอกาสมีรายได้เพิ่มหากการบินปรับตัวดีขึ้น ซึ่งมากกว่าสัญญาเดิมที่เก็บ 20% ตลอดอายุสัญญา พร้อมขยายเวลาสัญญาออกไปอีก 2 ปี สอดคล้องกับแผนสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) แล้วเสร็จในช่วงปี 75 การขยายเวลาสัญญาจะครอบคลุมช่วงปิดซ่อมอาคารผู้โดยสารเดิมปี 75-78

2. ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) แนวทางแก้ไข : ทอท.ยังคงการเรียกเก็บค่า MG ขั้นต่ำต่อตารางเมตร (โดยคิดเป็น 39,187.76 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน) และเรียกเก็บส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) 20% ตามสัญญาเดิม และหากอัตราการฟื้นตัวของจำนวนผู้โดยสารกลับมาเกิน 100% ทอท.จะกลับไปใช้อัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำต่อตารางเมตรตามที่เคยตกลงไว้ก่อนหน้า พร้อมขยายเวลาสัญญา 5 ปี (นับรวมอายุสัญญาคงเหลือ) แต่หากก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร 3 ล่าช้าออกไปจนทำให้สัญญาของ KPD ณ ทดม.คงเหลืออายุสัญญาไม่ถึง 1 ปี ณ วันเปิดใช้อาคารอย่างเป็นทางการ ทอท.ขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกสัญญา KPD เพื่อเปิดประมูลใหม่

3. ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทกภ.), ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) และ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) แนวทางแก้ไข: ทอท.ยังคงการเรียกเก็บค่า MG ตามเดิม โดยเรียกเก็บเป็นรายปี (เทียบเท่า 129.67 บาทต่อคนและมีการเติบโต 5% ทุกปีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 73 เนื่องจากสภาพการใช้จ่ายของผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานภูมิภาค และปริมาณผู้โดยสารปรับตัวลงอย่างมากภายหลังสถานการณ์โควิด-19 หรือเทียบเท่าค่าเฉลี่ยตลอดสัญญาที่ 134.70 บาทต่อคน) ทอท.เจรจาส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) ส่วนเพิ่มอีก 35% ของมูลค่าซื้อต่อผู้โดยสาร (Spending per Head) ส่วนเกิน

ทั้งนี้ ภายหลังการแก้ไขสัญญาแล้ว ในอนาคตหากธุรกิจกลับมาเหมือนเดิมตามข้อเสนอการดำเนินงานกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (Proposal) ของ KPD ทอท.ขอสงวนสิทธิ์ที่จะขอเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนเดิมตามที่ KPD เสนอใน Proposal


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ