BCP ราคาปิด 27.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.87% หรือเพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 301.733 ล้านบาท จากราคาเปิด 26.75 บาท ราคาสูงสุด 27.75 บาทและราคาต่ำสุด 26.75 บาท
แหล่งข่าววงการโบรกเกอร์ ระบุว่า กรณีสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งยืดและอายัดทรัพย์สินเครือข่ายสแกมเมอร์ "ยิม เลียก-เบน สมิธ" ซึ่งรวมทั้งหุ้นใหญ่ใน บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น [BCP] ประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องของผู้ถือหุ้น ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องเชิงพื้นฐานหรือการดำเนินงานของบริษัท อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วหากมีการอายัดหุ้นเหล่านั้นจะไม่สามารถซื้อขายหรือโยกย้ายได้ ทำให้ไม่มีแรงขายออกมาในตลาด ซึ่งท้ายที่สุดหากมีความผิดหุ้นเหล่านั้นจะถูกยึดเป็นทรัพย์สินของรัฐบาล
ด้าน บล.โกลเบล็ก ระบุว่า ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาหุ้น BCP มีความผันผวนสูงมาก โดยร่วงลงไปแตะระดับ 25.0 บาท ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาที่แถว 27 บาท เนื่องจาก 2 สาเหตุหลัก ได้แก่ การขายหุ้นของกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่บางรายของ BCP ได้ทำการขายหุ้นออกมาก่อนการสวอปหุ้น (Share Swap) ในอัตรา 6.5 หุ้น BSRC ต่อ 1 หุ้น BCP หลังจากการเพิกถอน (Delisting) หุ้น BSRC เพื่อพยายามรักษาสัดส่วนการถือหุ้นให้ใกล้เคียงเดิม รวมทั้งความกังวลการเข้าครอบงำกิจการ (Takeover)ของผู้ถือหุ้นบางรายได้สร้างความกังวลต่อราคาหุ้น BCP
หลังการแลกหุ้น BSRC สิทธิในการเสนอขายหุ้น (Tender) เพื่อแลกหุ้นของผู้ถือหุ้น BSRC ในอัตรา 6.5 หุ้น BSRC ต่อ 1 หุ้น BCP ได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันที่ 27 พ.ย.และวันที่ 11 ธ.ค.จะเป็นวันซื้อขายสุดท้ายของหุ้น BSRC เราเชื่อว่าหุ้นส่วนใหญ่จำนวน 631.9 ล้านหุ้น (คิดเป็น 18.3% ของจำนวนหุ้น BSRC ที่เหลือทั้งหมดในตลาด ซึ่งไม่ได้ถือโดย BCP) จะถูกนำมาแลกเปลี่ยนเป็นหุ้น BCP จำนวน 97.2 ล้านหุ้น ซึ่งจะส่งผลให้จำนวนหุ้น BCP ที่หมุนเวียนอยู่เพิ่มขึ้น 7% เป็น 1,474.2 ล้านหุ้น
เมื่อวันที่ 26 พ.ย.68 BCP ได้ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน (Share Buyback) เป็นเวลา 3 ปี รวมมูลค่า 3 พันล้านบาท โดยจะเริ่มซื้อคืนในเฟสแรกมูลค่า 1.1 พันล้านบาท เพื่อซื้อหุ้นคืนสูงสุด 29.5 ล้านหุ้น ในช่วงวันที่ 16 ธ.ค.68 ถึง 15 มิ.ย.69 ซึ่งหมายถึงราคาซื้อคืนที่ 37 บาทต่อหุ้น
อย่างไรก็ตาม การที่ราคาหุ้น BCP ปรับตัวลงอย่างรวดเร็วเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเกิดจากความกังวลเรื่องการสวอปหุ้นและความเกี่ยวข้องกับประเด็นการเข้าครอบงำกิจการ ได้บดบังปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ BCP ทั้งในด้าน GRM ที่อยู่ในระดับสูง (คาดการณ์ $10-12/bbl$ ในไตรมาส 4/68) การเติบโตของกำไรจากธุรกิจไฟฟ้า รวมถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการซื้อหุ้นคืนของ BCP ไม่มีผลกระทบต่อกำไรต่อหุ้น (EPS) อย่างมีนัยสำคัญ เราเชื่อว่าตลาดมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับผลกระทบของการสวอปหุ้น BSRC เป็นหุ้น BCP ซึ่งเราประเมินว่าจำนวนหุ้น BCP ที่เพิ่มขึ้นจะมีเพียง 7% (97.2 ล้านหุ้น) เท่านั้น ไม่ใช่จำนวนหุ้นทั้งหมดของ BSRC ที่ถูกสวอปเข้ามา
นอกจากนี้ เรามองว่ากำไรของ BSRC ในไตรมาส 4/68 และปี 69 จะแข็งแกร่งจาก GRM ที่สูง และอัตราการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับเกิน 90% เนื่องจากประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีขึ้นและภาวะตลาด GRM ที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยให้ BSRC สามารถเดินเครื่องโรงกลั่นได้ในระดับการผลิตที่สูงขึ้นระยะสั้นคลุมเครือ แต่ระยะกลางสดใส
เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อ BCP และคงราคาเป้าหมายที่ 41 บาท เชื่อว่าภายใน 3-6 เดือนข้างหน้าราคาหุ้น BCP จะกลับมาสะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริง ซึ่งปัจจุบันอาจถูกบดบังด้วยความกังวลระยะสั้นเกี่ยวกับผลกระทบของการสวอปหุ้น BSRC และโครงสร้างผู้ถือหุ้นที่คลุมเครือ ซึ่งน่าจะคลี่คลายลงเมื่อข้อเท็จจริงถูกเปิดเผย และช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนได้ในที่สุด