รายงานข่าวระบุว่า นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ และนายรัชตกร ศรีบุญโรจน์ ในฐานะผู้ถือหุ้นของ บมจ.การบินไทย [THAI] ยื่นหนังสือถึง รมว.คลัง และเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.68 ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทหลังจากมีมติจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ในวันที่ 19 ธันวาคม ซึ่งอาจขัดต่อข้อบังคับบริษัทและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายหลักทรัพย์ฯ
เนื่องจากในช่วงเดือนมีนาคม 2568 ระหว่างที่บริษัทอยู่ในระหว่างการฟื้นฟูกิจการตามคำสั่งศาลล้มละลาย ผู้บริหารแผนได้ใช้อำนาจและสิทธิของผู้ถือหุ้นตามกฎหมายฟื้นฟูกิจการในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 เพื่อพิจารณางบการเงินและแต่งตั้งผู้สอบบัญชีตามที่กฎหมายกำหนดครบถ้วนไปแล้ว การที่คณะกรรมการยังคงนัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นอีกครั้งในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นการประชุมหลังพ้นกำหนด 4 เดือนนับจากสิ้นรอบบัญชี จึงอาจเป็นการดำเนินการที่ฝ่าฝืนข้อบังคับบริษัทและกฎหมายบริษัทมหาชนฯ ที่กำหนดว่าหากพ้น 4 เดือนจะต้องจัดเป็นการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเท่านั้น
ขณะที่การเลือกตั้งกรรมการแทนผู้ที่ครบวาระ เป็นวาระที่กฎหมายกำหนดให้พิจารณาเฉพาะในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น จึงตั้งข้อสังเกตว่าการที่คณะกรรมการกำหนดให้การประชุมครั้งนี้อาจมีเจตนาแอบแฝงเพื่อผลักดันวาระเลือกกรรมการให้เกิดขึ้นภายในเดือนธันวาคม เพื่อผลักผู้บริหารแผนเดิมออกจากตำแหน่ง และแต่งตั้งคนของฝ่ายการเมืองแทน ทั้งๆ ที่ศาลล้มละลายกลางเคยระบุว่าผู้บริหารแผนปฏิบัติหน้าที่ได้มีประสิทธิภาพตามแผนฟื้นฟูฯ แต่กลับถูกผลักดันให้พ้นตำแหน่ง
การยืนยันจัดประชุมผู้ถือหุ้นที่อาจไม่ชอบด้วยกฎหมายยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดอย่างมีนัยสำคัญ ราคาหุ้น THAI ลดลงต่อเนื่องตั้งแต่มีข่าว จาก 14.50 บาท (มูลค่าบริษัท 410,398 ล้านบาท) ลดลงเหลือ 8.35 บาท หรือลดลง 42.4% ส่งผลให้มูลค่าบริษัทเหลือ 236,332 ล้านบาท คิดเป็นความเสียหายสะสมต่อมูลค่าบริษัทกว่า 174,065 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 ผู้ถือหุ้นได้แจ้งความนี้เพื่อลงบันทึกประจำวันที่ สน.สุทธิสาร เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าการดำเนินการของคณะกรรมการเข้าข่ายฝ่าฝืนข้อบังคับหรือกฎหมายหรือไม่ และอาจพิจารณาดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อผู้เกี่ยวข้องหากตรวจสอบแล้วว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย