(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าขาดปัจจัยหนุน น้ำมันร่วงกดดันกลุ่มพลังงาน-ลุ้นผลประชุม กนง.บ่ายนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 17, 2025 09:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดแกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์ดาวน์ นักลงทุนยังอยู่ไนโหมดของการระมัดระวังสะท้อนได้จากมูลค่าการซื้อขายยังค่อนข้างเบาบาง ประกอบกับ ยังไม่มีปัจจัยใหม่ในประเทศที่เข้ามาหนุน

ขณะที่วันนี้คาดว่าปัจจัยกดดันมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงแรงเมื่อคืนนี้ ทำไห้กดดันหุ้นกลุ่มพลังงานได้ ประกอบกับ ความผันผวนของหุ้น DELTA หลังจากหลุดการคำนวณดัชนี SETESG ไปเมื่อวานนี้ก็มีแรงขายออกมากดดันดัชนี อีกทั้งยังต้องระวังแรงขายปรับพอร์ตในช่วงใกล้ๆ ปลายเดือนจากเกณฑ์น้ำหนักในดัชนี SET50 ทำให้แรงกดดันยังคงอยู่

และบ่ายวันนี้ต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งตลาดคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%

โดยให้แนวต้าน 1,275 จุด แนวรับ 1,240-1,250 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (16 ธ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 8,114.26 จุด ลดลง 302.30 จุด หรือ -0.62%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,800.26 จุด ลดลง 16.25 จุด หรือ -0.24% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,111.46 จุด เพิ่มขึ้น 54.05 จุด หรือ +0.23%

- ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าเปิดไร้ทิศทาง ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 49,413.19 จุด เพิ่มขึ้น 29.90 จุด หรือ +0.06%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,243.59 จุด เพิ่มขึ้น 8.18 จุด หรือ +0.03% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,822.51 จุด ลดลง 2.30 จุด หรือ -0.06%

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 ธ.ค.) 1,260.68 จุด ลดลง 12.72 จุด (-1.00%) มูลค่าซื้อขาย 30,835.38 ล้านบาทล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (16 ธ.ค.) 353.03 ล้านบาท

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.(16 ธ.ค.) ลดลง 1.55 ดอลลาร์ หรือ 2.73% ปิดที่ 55.27 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 ธ.ค.) อยู่ที่ 7.20 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 31.47 ลุ้นมติดอกเบี้ย กนง. คาดกรอบวันนี้ 31.40-31.60

- "เงินบาท" แข็งค่านำภูมิภาครวดเร็วช่วงต้นเดือน ธ.ค.ที่สร้างความกังวลอย่างมาก ทั้งต่อภาคธุรกิจ และต่อขีดความสามารถการแข่งขันของไทยให้ลดลง การแข็งค่าของเงินบาทไม่ได้เป็นเพียงผลจากดอลลาร์อ่อนค่า แต่สะท้อนถึงแรงกดดันเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจไทยที่ชัดเจนขึ้น นายกฯ สั่ง "คลัง" หารือ ธปท.-พาณิชย์ แก้ปัญหา

- นักเศรษฐศาสตร์ประเมินที่ประชุม กนง.วันนี้มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 1.25% เพื่อพยุงเศรษฐกิจไทยที่กำลังเผชิญแรงกดดันรอบด้าน ทั้งเศรษฐกิจในประเทศอ่อนแอ เงินเฟ้อต่ำ สินเชื่อติดลบ หนี้เสียเพิ่ม เงินบาทแข็งค่า ปัจจัยการเมืองและภูมิรัฐศาสตร์

- เอวัง "คนละครึ่งพลัส เฟส 2" นายกฯ บอกชัดรอคัมแบ็กเป็นรัฐบาลปกติค่อยเดินหน้าต่อ เหตุรัฐบาลรักษาการล้วงงบกลางไม่ได้ "เอกนิติ" รับ กกต.ไม่ไฟเขียว ชี้ติดขัดกฎหมาย รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นต้องพับไปเช่นกัน "ศุภจี" ย้ำดีลเจรจาภาษีทรัมป์ยังนิ่ง สหรัฐยังไม่ปรับเงื่อนไข

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เข้ามากำกับดูแลธุรกิจให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์อย่างเป็นทางการ แล้วในปัจจุบัน ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของตลาดสินเชื่อรายย่อยที่มีขนาดใหญ่และเกี่ยวข้องกับประชาชนในวงกว้าง

- สู้รบไทย-กัมพูชาฉุดท่องเที่ยวไฮซีซันปลายปี ททท.ประเมินพบว่ากระทบความเชื่อมั่นแรงส่งผลเดือน ธ.ค.68 ต่างชาติลด 7-11% ตลาดชายแดนถูกยกเลิกห้องพักกว่า 40% ซ้ำอุทกภัยภาคใต้กดดันตลาดมาเลเซียหดตัว 55% ทั้งปีมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 32.8 ล้านคน ลดลง 8% จากปีก่อน รายได้ 2.68 ล้านล้านบาท ลดลง 2-3% ขณะที่ตลาดนักท่องเที่ยวไทยปี 68 ยังโตได้ทั้งจำนวนและมูลค่า

- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ได้ปรับลดการประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ลงจาก 2.1% เหลือ 2% แต่ที่น่าเป็นห่วงมากกว่าคือในปี 2569 เพราะปีหน้าถือเป็นปีที่เศรษฐกิจไทยไม่ได้อยู่ในช่วงวิกฤติ แต่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะโตต่ำเพียง 1.5% ซึ่งหากไม่รวมปีที่ประเทศไทยเกิดวิกฤติเศรษฐกิจปีนี้จะเป็นปีแรกในรอบ 3 ทศวรรษ หรือ 30 ปี ที่เศรษฐกิจไทยโตต่ำกว่า 2% ซึ่งไม่อยากให้การโตต่ำระดับนี้กลายเป็น New Normal ของเศรษฐกิจไทย

- จีดีพีไทยโตต่ำรอบกว่า 10 ปี เสี่ยงถูกเวียดนาม สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ มูลค่าจีดีพีแซงหน้าในอีก 5 ปี ขณะรายได้ต่อหัวคนไทยยังย่ำกับที่ ความหวังก้าวสู่ประเทศรายได้สูงยังริบหรี่ นักวิชาการ-เอกชนเตือน หากไม่ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเร่งด่วน ไทยเสี่ยงพลาดโอกาสดึงการลงทุนใหม่

*หุ้นเด่นวันนี้

- MTC (ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 58 บาท การประชุมกนง.วันนี้คาดลดดอกเบี้ยลงสู่ 1.25% เป็น Sentiment หนุนกลุ่มไฟแนนซ์จากต้นทุนทางการเงินจะค่อยๆ ขยับต่ำลง แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/68 คาดว่ายังเดินหน้าทำ New High ได้ต่อเนื่อง หนุนจากสินเชื่อที่เติบโตได้แข็งแกร่ง ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ยังคงแข็งแรงและบริหารจัดการได้ดี นอกจากนี้คาดว่าจะได้อานิสงส์เชิงบวกจากเม็ดเงินหาเสียงเลือกตั้งที่จะเริ่มขึ้นในเดือน ม.ค.

- GULF (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 60.00 บาท ผลประกอบการอยู่ในเกณฑ์ดี โดยคาดแนวโน้มไตรมาส 4/68 ยังเติบโตได้ ได้แรงหนุนจากโครงการลมในเยอรมนี และส่วนแบ่งกำไรจาก ADVANC ที่มีแนวโน้มเร่งขึ้นต่อเนื่อง q-q จากการรับรู้ต้นทุนคลื่นที่ลดลงเต็มไตรมาส ผสานกับการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรโรงไฟฟ้าใน US ที่มีการปรับค่าความพร้อมจ่ายเร่งขึ้น

- TFG (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 6.70 บาท มุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มของราคาสุกรในประเทศอาจปรับขึ้น จากอุปสงค์ปศุสัตว์เร่งตัวช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน ขณะที่ต้นทุนอย่างกากถั่วเหลืองในไตรมาส 4/68 ยังคงต่ำ ทรงตัวจากไตรมาสก่อนแต่ลดลง 22.5% YoY หนุน GPM ในไตรมาส 4/68 มีการฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้าตามราคาหมูที่ฟื้นตัว ทั้งนี้ผู้บริหารคาดว่าการเติบโตของยอดค้าปลีกจะอยู่ที่ 30% ในปี 2569 โดยมีเป้าหมายจำนวนสาขาที่ 850 สาขาภายในสิ้นปี 69 หนุนให้รายได้และกำไรยังคงเติบโตต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ