SAMART ทุ่ม 200 ลบ.ซื้อหุ้นคืน 36 ล้านหุ้นช่วง 22 ธ.ค.68-21 มิ.ย.69 หลังราคาต่ำบุ๊ก

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 18, 2025 09:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น [SAMART] เผยมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน ภายใต้วงเงินไม่เกิน 200 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เงินทุน เสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน และสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้น

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจใหม่ SAMART กล่าวว่า การซื้อหุ้นคืนของบริษัทกำหนดจำนวนไม่เกิน 36,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น ร้อยละ 3.58 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท จะดำเนินการผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ระหว่างวันที่ 22 ธันวาคม 2568 ถึงวันที่ 21 มิถุนายน 2569

สำหรับราคาซื้อหุ้นคืน บริษัทจะกำหนดราคาโดยอ้างอิงหลักเกณฑ์ที่รอบคอบและเป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยราคาซื้อหุ้นคืนจะไม่เกินร้อยละ 115 ของราคาปิดเฉลี่ยของหุ้นในช่วง 5 วันทำการซื้อขายล่าสุดก่อนวันที่ทำรายการ ทั้งนี้ เพื่อให้การซื้อหุ้นคืนเป็นไปอย่างเหมาะสมและสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท

การดำเนินโครงการซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้ ยังสะท้อนมุมมองของบริษัทว่าราคาหุ้นในปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (Book Value) ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 6.80 บาทต่อหุ้น ขณะที่พื้นฐานธุรกิจ ฐานะการเงิน และศักยภาพการเติบโตในระยะยาวยังคงแข็งแกร่ง

"การซื้อหุ้นคืนในช่วงที่ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี เป็นการบริหารเงินทุนที่มีประสิทธิภาพและสะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริหารต่อมูลค่าพื้นฐานของบริษัท โครงการนี้จึงเป็นทั้งการบริหารสภาพคล่องและการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว"
บริษัทฯ มีความพร้อมด้านสภาพคล่อง โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทมีกำไรสะสม 1,172 ล้านบาท มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 450 ล้านบาท และคาดว่าจะมีกระแสเงินสดสุทธิกว่า 400 ล้านบาท ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งเพียงพอสำหรับการชำระหนี้สินที่ถึงกำหนดภายใน 6 เดือน จำนวน 195 ล้านบาท รวมถึงการดำเนินโครงการซื้อหุ้นคืนโดยไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจหลักหรือแผนการลงทุนในอนาคต"

นายวัฒน์ชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อดีของการซื้อหุ้นคืน คือช่วยลดจำนวนหุ้นที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด ส่งผลให้กำไรต่อหุ้น (EPS) และอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ปรับตัวดีขึ้น ขณะเดียวกัน ผู้ถือหุ้นยังมีโอกาสได้รับเงินปันผลต่อหุ้นที่สูงขึ้น เนื่องจากหุ้นที่บริษัทซื้อคืนจะไม่มีสิทธิในการรับเงินปันผล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ