ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ของบมจ.การบินไทย [THAI] ได้อนุมัติการกำหนดจำนวนกรรมการเพิ่มเติม จากเดิมมีจำนวน 11 คน เป็นจำนวน 15 คน โดยการเลือกตั้งกรรมการเพิ่มเติม การเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ออกตามวาระ และการเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ลาออก ด้วยคะแนนเสียง 89.26% ไม่เห็นด้วย 10.67%
และได้มีการลงคะแนนเสียงเลือกกรรมการ จำนวน 9 คน จากที่มีการเสนอขื่อ11 คน โดยเรียงลำดับผู้ที่ได้รับเลือกรรมการคะแนนเสียงเห็นด้วยสูงสุด ดังนี้
1. นายชาย เอี่ยมศิริ กรรมการ กลับเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการอีกวาระหนึ่ง มีคะแนนเสียงเห็นด้วย 94.59%

2. นายวิรไท สันติประภพ กรรมการอิสระ มีคะแนนเสียง 93.98%
3. นายรพี สุจริตกุล กรรมการอิสระ มีคะแนนเสียง 90.65%
4. นายญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการอิสระ มีคะแนนเสียง 78.55%
5. พล.อ.อ.อำนาจ จีระมณีมัย กรรมการอิสระ กลับเข้าดำรงตำแนห่งกรรมการอีกวาระหนึ่ง มีคะแนนเสียง 78.05%
6. นายพลากร หวั่งหลี กรรมการอิสระ มีคะแนนเสียง 76.84%
7. นายวัชรา ตันตริยานนท์ กรรมการอิสระ มีคะแนนเสียง 75.18%
8. นางชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ กรรมการอิสระ มีคะแนนเสียง 68.74%
9. นางชาริตา ลีลายุทธ กรรมการอิสระ คะแนนเสียง มีคะแนนเสียง 68.36%
10.นายประชา คุณธรรมดี ซึ่งสหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สัดส่วนถือหุ้น THAI 5.43% เป็นผู้เสนอชื่อเป็นกรรมการ มีคะแนนเสียง 38.46%
11.นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ซึ่งธนาคารกรุงเทพ [BBL] ที่มีสัดส่วนถือหุ้น 8.49% เสนอชื่อเป็นกรรมการ ได้คะแนนเสียง 31.25%
ดังนั้น นายประชา คุณธรรมดี และนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร จึงไม่ได้รับเลือกเป็นกรรมการ
อย่างไรก็ดี ระหว่างการพิจารณาการคัดเลือกกรรมการ ผู้ถือหุ้นจากบลจ.กสิกรไทย และบลจ.บัวหลวง มีคำถามถึงพล.อ.อ.อำนาจ ที่นั่งเป็นกรรมการอิสระนานถึง 9 ปี ตั้งแต่ปี 2558- ปัจจุบัน โดยในช่วง 16 มิ.ย 68-6 พ.ย.68 เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริษัท 6 ครั้งจากทั้งหมด 9 ครั้ง ซึ่งนางสาวกุลยา ตันติเตมิท กรรมการอิสระและประธานกรรมการตรวจสอบ ชี้แจงว่า พล.อ.อ. ติดภาระกิจที่สำคัญอย่างยิ่งจึงไม่ได้เข้าร่วมประชุมกรรมการได้บางครั้ง แต่ได้ติดตามผลการประชุมทุกครั้งตลอดจนให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์
นอกจากนี้ ที่ประชุมอนุมัติการกำหนดค่าตอบแทนของกรรมการบริษัท และกรรมการชุดย่อยด้วยคะแนะนเสียงเห็นด้วย 88.21% ส่วนเงินโบนัสของกรรมการจะได้อัตรา 0.2% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวม ไม่เกิน 30 ล้านบาท
ทั้งนี้ เนื่องจากมีผู้ถือหุ้นคัดค้านการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นก่อนเริ่มการประชุม นายเทพชล โกศล ที่ปรึกษากฏหมาย THAI ยืนยันว่าการประชุมในวันนี้เป็นไปตามข้อบังคับบริษัท พ.ร.บ.บริษัทมหาชน และ พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากในปี 68 บริษัทยังไม่เคยจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นมาก่อน
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดก.คลัง ในฐานะประธานกรรมการ THAI กล่าวในที่ประชุมวันนี้ว่า บริษัทได้จัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นตามข้อบังคับบริษัทและตามกฎหมายหลังศาลล้มละลายได้ยกเลิกการฟื้นฟูกิจการเมื่อ 16 มิ.ย.68 อำนาจหน้าที่ของผู้บริหารแผนจึงสิ้นสุดลง และเปิดให้ผู้ถือหุ้นกลับมาบริหาร ส่วนการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อ 18 เม.ย.68 ไม่ใช่เป็นการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น แต่เป็นการใช้อำนาจของผู้บริหารแผนแทนผู้ถือหุ้น
ณ 20 พ.ย.68 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ได้แก่ กระทรวงการคลังถือหุ้น 38.90% BBL 8.49% สหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 5.43% ธนาคารกรุงไทย 4.65% ธนาคารทหารไทยธนชาต ถือ 2.05%