สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2565 และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ในวันที่ 30 มีนาคม 2565 ถึงวันที่ 7 กรกฎาคม 2565 (รวม 64 วันทำการ) ผู้กระทำความผิด 2 ราย ได้แก่ (1) นางสาวภรัณยา รุจนพรพจี และ (2) นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ซึ่งมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างกันในด้านความสัมพันธ์ส่วนบุคคลและความสัมพันธ์ทางการเงิน ได้ร่วมกันสร้างราคาหรือปริมาณหลักทรัพย์ โดยส่งคำสั่งซื้อหรือขายหลักทรัพย์ หรือซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ในลักษณะต่อเนื่องกัน โดยมุ่งหมายให้ราคาหลักทรัพย์หรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด
ทั้งนี้ ผู้กระทำความผิดทั้ง 2 ราย ได้ร่วมกันกระทำการโดยแบ่งหน้าที่กันซื้อขายหุ้น บมจ.เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น [MSC] ในลักษณะสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขาย โดยมีพฤติกรรมผลักดันราคาอย่างต่อเนื่องจนทำให้ราคาหุ้น MSC ปรับตัวสูงขึ้นหรือสูงขึ้นไปจนถึงราคาสูงสุดของหลักทรัพย์ในแต่ละวัน (Ceiling) จับคู่ซื้อขายระหว่างกัน รวมทั้งส่งคำสั่งซื้อขาย โดยรู้อยู่แล้วว่ากลุ่มของตนได้สั่งซื้อขายหลักทรัพย์เดียวกันในราคา ปริมาณ และเวลาใกล้เคียงกัน เพื่ออำพรางปริมาณการซื้อขายหุ้น ทำให้ผู้ลงทุนอื่นเข้าใจผิดว่าหุ้น MSC มีปริมาณการซื้อขายมากและเข้ามาซื้อขายตาม ส่งผลให้ราคาหุ้น MSC ปรับตัวสูงขึ้น เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของราคาซื้อขายหุ้น MSC และเพื่อให้หุ้น MSC มีราคาสูงขึ้น และให้มีมูลค่าใกล้เคียงกับมูลค่าของธุรกรรมที่นางสาวภรัณยาได้ทำธุรกรรมแลกหุ้น บมจ.สบาย เทคโนโลยี [SABUY] กับ บมจ.ที.เค.เอส. เทคโนโลยี [TKS] อันเป็นการทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อขายหุ้น MSC รวมทั้งเป็นการซื้อขายหุ้น MSC ในลักษณะต่อเนื่องกัน ทำให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหุ้น MSC ปรับตัวผิดไปจากสภาพปกติของตลาด
การกระทำของกลุ่มผู้กระทำความผิดจำนวน 2 รายข้างต้น เป็นความผิดฐานร่วมกันสร้างราคาหรือปริมาณหุ้น MSC ตามมาตรา 244/3 ประกอบมาตรา 244/5(2)(3) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ) ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/1 และมาตรา 296/2 พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับ กับผู้กระทำความผิดทั้ง 2 รายดังกล่าว โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ได้แก่
(1) ให้นางสาวภรัณยา ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนที่เท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 249,254,347 บาท ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นเวลา 14 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 28 เดือน
(2) ให้นายชูเกียรติ ชำระค่าปรับทางแพ่ง และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 594,117 บาท ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นเวลา 11 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 22 เดือน
การกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวข้างต้น จะมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราที่อัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติโดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. กำหนด
ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง