นักวิเคราะห์ประเมินตลาดหุ้นไทยเช้านี้รีบาวด์แม้วอลุ่มบางช่วงเข้าเทศกาลปีใหม่ โดยรับ sentiment เชิงบวกการเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน และไทย-กัมพูชาบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่แบงก์ชาติมีมาตรการดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาทเพื่อลดแรงกดดันทางเศรษฐกิจ ให้แนวรับ 1,240 จุด แนวต้าน 1,270 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล,CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะรีบาวด์ได้ แต่มูลค่าการซื้อขายอาจเบาบางช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยตลาดคาดหวังการเจรจาสันติภาพระหว่างผู้นำรัสเซียและยูเครน และข้อตกลงหยุดยิงไทย-กัมพูชาจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้น
ประกอบกับ ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สั่งแบงก์พาณิชย์รายงานธุรกรรมนำเงินเข้าตั้งแต่ 2 แสนดอลลาร์สหรัฐ และให้ผู้ค้าทองคำรายงานการค้าออนไลน์เพื่อดูแลเงินบาท โดยที่ผ่านมาเริ่มเห็นเงินบาทหยุดอ่อนค่าเล็กน้อยแสดงว่ามาตรการเห็นผล ช่วยลดแรงกดดันทางเศรษฐกิจ จึงมองเป็นบวก
พร้อมให้แนวรับ 1,240 จุด แนวต้าน 1,270 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (26 ธ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 48,710.97 จุด ลดลง 20.19 จุด หรือ -0.04%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,929.94 จุด ลดลง 2.11 จุด หรือ -0.03% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,593.10 จุด ลดลง 20.21 จุด หรือ -0.09%
- ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าเปิดไร้ทิศทาง ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดตลาดที่ระดับ 50,691.22 จุด ลดลง 59.17 จุด หรือ -0.11%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,928.89 จุด เพิ่มขึ้น 109.96 จุด หรือ +0.43% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,964.65 จุด เพิ่มขึ้น 0.97 จุด หรือ +0.02%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 ธ.ค.) 1,259.25 จุด ลดลง 5.52 จุด (-0.44%) มูลค่าซื้อขาย 17,261.83 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (26 ธ.ค.) 1,129.88 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.(26 ธ.ค.)ร่วงลง 1.61 ดอลลาร์ หรือ 2.76% ปิดที่ 56.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 ธ.ค.) อยู่ที่ 6.41 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.17/21 อ่อนค่าสอดคล้องภูมิภาค ตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่-ธุรกรรมเบาบาง
- แบงก์ชาติเร่งระดมมาตรการสกัดบาทแข็ง ผู้ว่าการลงนามออกประกาศด่วนสั่งแบงก์ตรวจธุรกรรมนำเข้าเงินตราต่างประเทศเกิน 2 แสนดอลลาร์ มีผลทันที 29 ธ.ค.นี้ ตรวจสอบที่มา-ที่ไปของเงินทุกธุรกรรม จับตาพิเศษเงินลงทุนต่างประเทศในธุรกิจ "อสังหาฯ-สินทรัพย์ดิจิทัล" พร้อมเดินหน้าแก้ประกาศกระทรวงคลังคุมร้านทอง เตรียมบังคับใช้กลาง ม.ค.2569 เผยธุรกรรมซื้อๆ ขายๆ ทองสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่มาก แต่สร้างแรงกดดันต่อค่าเงินบาท กระทบภาพรวมเศรษฐกิจประเทศ
- รับสมัครเลือกตั้งคึกคัก กกต.เผยสมัครปาร์ตี้ลิสต์วันแรก 1,502 คน เสนอชื่อ 73 แคนดิเดตนายกฯ ส่วน สส.แบบแบ่งเขต 2 วันรวม 3,199 คน ด้านนักวิเคราะห์ประเมินนโยบายเศรษฐกิจ 3 พรรคการเมืองหลัก คือ ภูมิใจไทย ประชาชน และเพื่อไทย พบทั้งหมดมี "จุดร่วมสำคัญ" คือ เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น
- จับสัญญาณชีพท่องเที่ยวไทยปี 69 ส่อซึมหนัก "บาทแข็ง" ซ้ำเติมสงครามชิงทัวริสต์ทั่วโลก-ภูมิภาคเอเชีย ร้อนระอุ "สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ" ชี้ "จีน" น่ากลัวสุดนาทีนี้ วางจุดขายครบรสทั้งปลอดภัยสูง สินค้าครบวงจร ตอบโจทย์ทุกเซกเมนต์ส่วน "ญี่ปุ่น" อานิสงส์เงินเยนอ่อนค่าดึงต่างชาติทะลัก 11 เดือนแรก 39 ล้านคน "เวียดนาม" ได้เปรียบต้นทุนถูกกว่าไทย หนุนยอดเดินทางนิวไฮปีนี้แตะ 21 ล้านคน "แอตต้า" ประเมินปี 69 คาดต่างชาติเที่ยวไทยซึม ทรงตัวเท่าปีนี้
- นายกคอนโดมองเทรนด์อสังหาฯ ปี'69 สร้างสมดุลใหม่ หลังบอบช้ำพิษเศรษฐกิจ เขต กทม.-ปริมณฑล ประเมินตลาดรวมยอดขายปีละ 5 แสนล้านหดตัวครึ่งหนึ่ง แนวโน้มทรงตัว 2.6-3 แสนล้านต่อเนื่องอีกหลายปี จนกว่า GDP 5% จึงจะมีโอกาสฟื้นตัวได้จริง เสนอโรดแมปรัฐบาลหลังเลือกตั้ง 8+3
- คลังเร่งเครื่องเก็บ "ภาษีส่วนเพิ่ม" บริษัทข้ามชาติ หวั่นเสียประโยชน์ หลัง พ.ร.ก.กำหนดให้เริ่มคำนวณภาษีรอบบัญชีตั้งแต่ 1 ม.ค.68 แต่ยังออกกฎหมายลูกไม่ได้ แถมรัฐบาลยุบสภาต้องรอ ครม.ใหม่มาพิจารณา "ปลัดคลัง" ชี้กฤษฎีกาตีความ "บีโอไอ" ไม่มีอำนาจจัดเก็บ ทำให้ต้องกลับมาคุยกำหนดแนวทางกันใหม่ ยืนยันต้องเร่งดำเนินการไม่เช่นนั้นภาษีที่คาดจะเก็บได้ 1.2 หมื่นล้านบาทหายวับ
- บ.วายแอลจี (YLG) เผยปีนี้ถือเป็นปีที่ดีที่สุดของการลงทุนทองคำ หลังราคาทองคำสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากแรงหนุนดอกเบี้ยขาลง การซื้อสะสมของธนาคารกลาง และความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ มองปี 69 ยังสดใส ตั้งเป้าทองโลก 4,7214,900 ดอลลาร์ ทองไทยแตะ 7 หมื่นบาท มีจังหวะย่อให้เข้าซื้อทำกำไร
- CENTEL (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 37 บาท คาดไตรมาส 4/69 แข็งแกร่งช่วง High Season ทั้งจากธุรกิจโรงแรมคาด RevPar เร่งตัวขึ้นตามตัวเลขนักท่องเที่ยวปลายปีเริ่มฟื้นตัว ขณะที่ธุรกิจอาหารคาดดีขึ้นตามการบริโภคที่มากขึ้นเช่นกัน และได้รับการคัดเลือกเข้าดัชนี SET50 รอบใหม่ ถือเป็นโมเมนตัมเชิงบวกต่อราคาหุ้นในช่วงโค้งสุดท้ายของปี
- ADVANC (กรุงไทย เอ็กซ์สปริง) Fair Price 346.00 บาท แนวโน้มผลงานไตรมาส 4/68 ยังคงแข็งแกร่งขับเคลื่อนด้วยธุรกิจโทรศัพท์มือถือตามการเติบโตความต้องการใช้ข้อมูล คาดจ่ายปันผล H2/68 ราว 7.65 บาท/หุ้น คิดเป็นปันผลตอบแทนสำหรับงวด 2.4%
- BAM (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 7.95 บาท แนวโน้มไตรมาส 4/68 เติบโต QoQ, YoY ปัจจัยหนุนจากยอดเก็บหนี้เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล บวกกับการขาย NPA ดีขึ้นหลังออกโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย เน้นปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้าเองมากขึ้น ส่วนสำรองหนี้ลดลงสอดคล้องการชำระหนี้ลูกค้า ตลาดคาดปี 68 กำไร 2.2 พันล้านบาท โตราว +40%YoY มีความน่าสนใจจากอัตราผลตอบแทนเงินปันผลดีราว 7% และมี upside จากการซื้อหนี้ของ JVAMC และ Ari- AMC ที่ร่วมทุนกับออมสิน ตามมาตรการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนของรัฐบาลในโครงการ "ปิดหนี้ไว ไปต่อได้"