นายรณชิต แย้มสอาด รักษาการผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) คาดลงนามในสัญญาจ้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ได้ประมาณต้นเดือน ธ.ค.นี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจร่างสัญญาของสำนักงานอัยการสูงสุด
ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ได้ปรับแบบบริเวณสถานีอนุสาวรีย์หลักสี่
สำหรับการประชุมคณะกรรมการ รฟม.วันนี้ นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ กรรมการบอร์ด รฟม.ได้ปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุมแทนนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ที่ถูกสั่งย้ายไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยที่ประชุมฯ อนุมัติให้ รฟม.กู้เงินรวม 1.53 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 1.เงินกู้เพื่อจ่ายค่างานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ จำนวน 1.23 หมื่นล้านบาท และ 2.เงินกู้เพื่อจ่ายล่วงหน้าสำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ จำนวน 3 พันล้านบาท
นอกจากนั้น ที่ประชุมฯ มีมติให้คณะอนุกรรมการด้านกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ ซึ่งมีนายอรรถพล ใหญ่สว่าง กรรมการเป็นประธานตรวจสอบข้อเท็จจริงผลการประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ สัญญาที่ 6 งานระบบราง มูลค่า 3,663 ล้านบาท ซึ่งเกิดปัญหาจากการพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคเกี่ยวกับบุคลากรของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง หลังองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น(ไจก้า) เห็นว่า บมจ.อิตาเลียน ดีเวล๊อปเมนต์(ITD) ผ่านเพียงรายเดียว ขณะที่คณะกรรมการประกวดราคา ซึ่งมีนายชัยสิทธิ์ คุรุรัตน์ รองผู้ว่าการ รฟม. เป็นประธาน เห็นว่า บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น(STEC) และบมจ.อิตาเลียนฯ ผ่านทั้งคู่
ส่วนกรณีที่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและเตรียมตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงนายชัยสิทธิ์ และนายชาญศักดิ์ ศิริสิทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมโยธาและสถาปัตยกรรม ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการประกวดราคานั้น จะต้องชะลอการสอบสวนวินัยร้ายแรงไว้ก่อน เพราะเห็นว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ผ่านมาเป็นเพียงการพิจารณาจากเอกสารเพียงอย่างเดียว ซึ่งตามหลักแล้วการจะพิจารณาวินัยร้ายแรงกับบุคคลใดต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ