MDX คาด Q4/54 กำไรโต qoq คงเป้าทั้งปีโต 10%,มั่นใจนิคมฯเกตเวย์เนื้อหอม

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 6, 2011 11:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิชญพงศ์ ณ บางช้าง กรรมการบริหาร บมจ.เอ็มดีเอ็กซ์(MDX)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 4/54 จะมีกำไรสุทธิสูงกว่าไตรมาส 3/54 โดยมาจากรายได้ในธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจพัฒนาที่ดินนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ จ.ฉะเชิงเทรา และทั้งปียังคงเป้ามีกำไรสุทธิเติบโต 10% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 180 ล้านบาท

อนึ่ง ผลประกอบการ MDX ไตรมาส 3/54 มีกำไรสุทธิ 45.59 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 6.6 แสนล้านบาทในไตรมาส 2/54 และเพิ่มขึ้นจากกำไร 45.52 ล้านบาทในไตรมาส 3/53

ในปีนี้บริษัทสามารถขายที่ดินในนิคมฯ ได้สูงกว่าปีก่อนค่อนข้างมาก โดยมียอดขายกว่า 190 ไร่ จากเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะขายได้ประมาณ 70 ไร่ ขณะที่ปีก่อนมียอดขาย 47 ไร่ คาดว่าจะสามารถโอนและรับรู้รายได้ภายในปีนี้ประมาณ 100 ไร่ ส่วนที่เหลือจะเป็นการโอนและรับรู้รายได้ในปีหน้า

สำหรับการเจรจาขายที่ดินให้ลูกค้าจากประเทศจีนจำนวน 166 ไร่ นายพิชญพงษ์ กล่าวว่า ไม่สามารถปิดการขายได้ เนื่องจากหาข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับราคาซื้อขายไม่ได้ โดยฝ่ายจีนต้องการซื้อที่ดินราคาที่ต่ำกว่าบริษัทเสนอขาย จึงถือว่าปิดดีลการเจรจาดังกล่าวและจะไม่มีการเจรจากันอีก

"ปีนี้แม้เราจะมียอดขายที่ดินได้มาก แต่เราก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นค่าบำรุงรักษาเมื่อถึงเวลา เช่นการปรับเปลี่ยนท่อน้ำใหม่ ทำถนนโดยรอบใหม่ เมื่อมีลูกค้าใหม่ๆ เราก็ถือโอกาสปรับปรุงไปด้วย และปีนี้เป็นปีที่เราต้องกลับมาเสียภาษีนิติบุคคลในอัตราปกติที่ 30%"นายพิชญพงศ์ กล่าว

กรรมการบริหาร กล่าวว่า นิคมฯของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมใหญ่ เนื่องจากไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงและไม่ได้อยู่ในเส้นทางผ่านของน้ำ แต่ก่อนหน้านี้บริษัทได้ติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมการรับมือป้องกันเหตุการณ์น้ำท่วม และในอนาคตบริษัทไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องมีการลงทุนเพื่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าหลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ เชื่อว่าจะทำให้นิคมฯที่อยู่นอกพื้นที่เสี่ยงได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น รวมถึง MDX ด้วย แต่ในขณะนี้ยังไม่มีลูกค้ารายใหม่เข้ามาติดต่อเจรจาแสดงความสนใจซื้อทีดินเพิ่มเติม ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเกิดจากสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ ประกอบกับ ต้องการความมั่นใจในระบบการบริหารจัดการน้ำในอนาคต

ด้านธุรกิจไฟฟ้า ขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนการลงทุนใดๆ เพิ่มเติม โดยขอรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาก่อน ปัจจุบัน บริษัทจะมีรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าประมาณ 300 ล้านบาท/ปี

ขณะที่โครงการไฟฟ้าน้ำเทินหินบูนส่วนต่อขยายในประเทศลาว กำลังการผลิตไฟฟ้า 290 เมกะวัตต์จะแล้วเสร็จและเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณชิย์ในไตรมาส 3/55 และเริ่มรับรู้รายได้ในปลายปี 55 ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าน้ำงึม 3 กำลังการผลิต 440 เมกะวัตต์จะเริ่มเตรียมการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 59


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ