APCS เผยผลสำเร็จบินเจรจาลูกค้า 2 รายในสหรัฐ เริ่มส่งออร์เดอร์ Q2/55

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 21, 2011 16:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ การุณกรสกุล กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.เอเซีย พรีซิชั่น(APCS)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทได้รับคำสั่งซื้อ(ออร์เดอร์)ผลิตชิ้นส่วนให้กับลูกค้าในประเทศสหรัฐ 2 ราย หลังจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เดินทางไปเจรจาในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งเป็นชิ้นส่วนคอมเพรสเซอร์และชิ้นส่วนในอากาศยาน โดยชิ้นส่วนบางประเภทเป็นชิ้นส่วนรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยผลิตมาก่อน คาดว่าจะเริ่มผลิตและส่งมอบให้กับลูกค้าในไตรมาส 2/55

ขณะเดียวกัน ตลาดในประเทศเริ่มมีออร์เดอร์กลับเข้ามาในกลุ่มลูกค้าเดิม และยังได้รับออร์เดอร์จากลูกค้ารายใหม่เข้ามาด้วย โดยเฉพาะลูกค้าที่โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ของซัพพลายเออร์ถูกน้ำท่วม ทำให้บริษัทได้รับออร์เดอร์เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนต่อการสร้างรายได้และกำไรสุทธิให้เพิ่มขึ้นในปี 55

จากปริมาณออร์เดอร์ที่เข้ามาเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำลังการผลิตในปี 55 เพิ่มขึ้นตามไปด้วย คาดว่ากำลังการผลิตจะสูงขึ้นเป็น 85% จากปี 54 ที่คาดว่าจะมีกำลังการผลิต 65-70% สอดคล้องกับแผนงานในปี 55 ทั้งการสร้างโรงงานในประเทศที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร รวมทั้งการเช่าโรงงานในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อผลิตสินค้ารองรับออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวม 300-350 ล้านบาท โดยเฉพาะในอินโดนีเซียมีความต้องการชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ค่อนข้างมาก เพราะมียอดการผลิตปีละกว่า 7 ล้านคัน มากกว่าประเทศไทย 3-4 เท่า

"ช่วงนี้เราโฟกัสที่ประเทศอินโดนีเซีย ผมมองว่าเป็นประเทศที่น่าสนใจในด้านความต้องการที่สูงจากปริมาณการใช้ แต่ที่เลือกเป็นรูปแบบเช่าโรงงานเพื่อเพิ่มการผลิตมากกว่าการสร้างโรงงาน เพราะขยายได้เร็ว แต่ในอนาคตจะเป็นในรูปแบบการสร้างหรือไม่ค่อยว่ากันอีกที"นายอภิชาติ กล่าว

สำหรับสัดส่วนยอดขายของบริษัทก็ยังใกล้เคียงปีก่อน แบ่งเป็นชิ้นส่วนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ 60% กล้องถ่ายภาพดิจิตอล 15% และคอมเพรสเซอร์ 15-20% ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 55 ประเมินว่าจะเห็นยอดการผลิตผลิตที่ 1.8 ล้านคัน จากปีนี้ 1.6 ล้านคัน โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญคือการเปิดตัวรถยนต์อีโคคาร์ รวมถึงมาตรการภาษีรถคันแรก

กรรมการผู้อำนวยการ APCS กล่าวต่อว่า จากปัจจัยดังกล่าวบริษัทคาดว่ารายได้ในปี 55 เพิ่มขึ้น 20-30% จากปี 54 ที่รายได้คงจะต่ำกว่าเป้าหมาย 1 พันล้านบาท รวมทั้งกำไรสุทธิก็จะลดลงด้วยเช่นกัน และอาจต่ำกว่าผลงานในปี 53 ที่บริษัทมีรายได้รวม 907 ล้านบาท กำไรสุทธิ 142 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากน้ำท่วมทำให้ลูกค้าชะลอออร์เดอร์ เป็นไปตามภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ ยอดขายในไตรมาส 4/54 จึงลดลง แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเชื่อว่าจะสามารถจ่ายปันผลจากผลประกอบการงวดปี 54 ให้กับผู้ถือหุ้นได้ เพราะยังมีกำไรและกระแสเงินสดเป็นบวก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ