บริษัท ไวร์เลส ดีไวซ์ ซัพพลาย จำกัด (WDS) ในเครือ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC) หรือ AIS คาดว่าในปีนี้บริษัทจะทำยอดขายโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้นเป็น 3.5 ล้านเครื่อง สูงขึ้นจาก 2.5 ล้านเครื่องในปี 54 ขณะที่ตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)ไว้ที่ 5% ใกล้เคียงปีก่อน
นายถกลรัตน์ แก้วกาญจน์ กรรมการผู้จัดการ WDS เปิดเผยว่า ยอดขายโทรศัพท์มือถือในปี 55 นั้น 30% จะเป็นโทรศัพท์ประเภทสมาร์ทโฟนที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 20% ในปีก่อน
ขณะที่รายได้รวมในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 1.3 หมื่นล้านบาท โดยรายได้ของบริษัทคิดเป็นกว่า 10% ของรายได้รวมของ ADVANC ขณะที่บริษัทจะพยายามรักษามาร์จิ้นกล้เคียงปีก่อน แม้ว่าแนวโน้มมีโอกาสที่จะอ่อนตัวลง เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงและราคาเครื่องโทรศัพท์ที่ปรับลดลง
สำหรับภาพรวมตลาดโทรศัพท์มือถือในประเทศไทยในปี 55 คาดว่าจะมีจำนวนเครื่องเพิ่มเป็น 17 ล้านเครื่องหรือเติบโต 15% จากปีก่อนอยู่ที่ 14 ล้านเครื่อง โดยสมาร์ทโฟนและแทบเลตมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป มาใช้โทรศัพท์มือถือที่มีประโยชน์ในการใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ใช้งานง่าย สะดวก หรือแม้แต่การรองรับมัลติมีเดีย ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนในปีนี้เพิ่มเป็น 5 ล้านเครื่อง จากปีก่อนที่ 3 ล้านเครื่อง
ล่าสุด วันนี้บริษัทได้ร่วมกับพันธมิตรใหม่ ZTE จากประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้นำในการให้บริการอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมและวางระบบเครือข่ายระดับโลก เปิดตัวสมาร์ทโฟน 2 รุ่น ได้แก่ ZTE Racer II ราคา 3,990 บาท, ZTE Blade ราคา 5,790 บาท และแทบเลต 1 รุ่น ได้แก่ ZTE V9+ แท็ปเล็ท ราคา 10,900 บาท ซึ่งจะวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นครั้งแรกที่ร้านเทเลวิซ, เอไอเอส ช็อป และร้านตัวแทนจำหน่ายของ WDS ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าจะมียอดขายโทรศัพท์รุ่นละอย่างน้อย 1 หมื่นเครื่องต่อเดือน และแทบเลตอย่างน้อย 1 พันเครื่องต่อเดือน
ด้านนายจาง เสี่ยวเค่อ ผู้บริหารระดับสูง ของบริษัท ZTE ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทมีความมั่นใจในการเข้ามาบุกตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยอย่างเต็มตัว เนื่องจากตลาดในประเทศไทยเป็นตลาดที่เปิดกว้าง โดยจะใช้คุณภาพและราคาที่ย่อมเยาว์เป็นจุดขาย
ทั้งนี้ ZTE ตั้งเป้ายอดขายโทรศัพท์มือถือทั่วโลกทั่วปี 55 ที่ 25 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มียอดขายมากกว่า 12 ล้านเครื่อง ซึ่งจะทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 3 ของโลก จากปีก่อนอยู่ที่อันดับ 4