นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย(THAI) กล่าวถึงข้อเสนอของนายวีรพงษ์ รามางกูร วีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ(กยอ.)ที่ให้กระทรวงการคลังลดสัดส่วนการถือหุ้นในรัฐวิสาหกิจลงว่า การลดสัดส่วนหุ้นของกระทรวงการคลังที่ถืออยู่ใน THAI ลง 2% จะทำให้การบริหารจัดการของบริษัทดีกว่าปัจจุบัน เพราะทำให้มีความคล่องตัว ซึ่งถือว่าเป็นความสำคัญของการบริหารธุรกิจสายการบิน
"การควบคุมโดยรัฐก็ยังมีอยู่แต่ถ้าไม่เป็นรัฐวิสาหกิจตามนิยาม ก็จะทำให้การบริการจัดการคล่องตัว ซึ่งเป็นหัวใจการบริการธุรกิจการบินที่มีการเปลี่ยนแปลงสูงมาก"นายปิยสวัสดิ์ กล่าว
อย่างไรก็ดี หากมีการเปลี่ยนแปลงจริง THAI จะต้องทำความเข้าใจกับพนักงานเพื่อให้เกิดความสบายใจ และยอมรับว่าเป็นเรื่องยากในการทำความเข้าใจ แต่ยืนยันว่าสวัสดิการที่พนักงานได้รับจะยังคงเหมือนเดิม และจะไม่กระทบเรื่องเงินกู้ของ THAI เพราะที่ผ่านมากระทรวงคลังไม่เคยค้ำประกันเงินกู้ให้บริษัท โดยมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้ถือหุ้นเป็นหลัก
ส่วนที่มีข้อกังวลว่าหากปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังใน THAI ลงจะเสียประโยชน์จากเงื่อนไขที่มีข้อกำหนดให้หน่วยงานราชการต้องใช้บริการของสายการบินไทยหรือไม่นั้น นายปิยสวัสดิ์ มองว่า THAI มีรายได้จากส่วนนี้เพียงปีละ 1 พันล้านบาทเท่านั้น ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับรายได้รวมของบริษัทที่ 1.9 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทได้ปรับโครงสร้างหนี้แล้วบางส่วน โดยเปลี่ยนเงื่อนไขที่ไม่มีความจำเป็น คือ ให้ก.คลังถือหุ้นเกิน 50% และบริษัทยังได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำลงด้วย