SST เผยเจรจาขายธุรกิจน้ำมันพืช"ทิพ"แต่ยังไม่ได้ราคา-ข้อเสนอที่น่าพอใจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 24, 2012 11:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

แหล่งข่าวจาก บมจ.ทรัพย์ศรีไทย(SST)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาขายกิจการน้ำมันพืช"ทิพ"แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปในขณะนี้ เนื่องจากข้อเสนอ โดยเฉพาะในด้านราคายังไม่เป็นที่พอใจ ซึ่งบริษัทมองว่าหากขายกิจการต้องมีกำไร เพราะราคาประเมินอยู่ที่กว่า 900 ล้านบาทตามราคาที่ดินโรงงานที่ปรับเพิ่มขึ้นมากว่า 7-10% และผู้ถือหุ้นต้องพอใจ

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเปิดกว้างที่จะรับข้อเสนอของทุกกลุ่ม เพราะต้องการขายกิจการน้ำมันพืช"ทิพ"ที่มีมาร์จิ้นค่อนข้างน้อย ซึ่ง ที่ผ่านมามีนักลงทุนขอเข้ามาเจรจามากทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยให้ความสนใจทั้งในรูปแบบการซื้อกิจการ และนักลงทุนบางราย โดยเฉพาะต่างประเทศ ยื่นข้อเสนอเข้ามาร่วมทุน แต่เรื่องดังกล่าวคงอยู่ที่จังหวะและข้อตกลงที่ยอมรับได้ทั้ง 2 ฝ่าย

"การขายก็คงเหมือนซื้อล็อตตารี่ ที่ผ่านมามีคนเข้ามาคุยกับเราเพื่อขอซื้อ แต่ยังไม่สรุป ยังไม่ถูกใจในเรื่องราคา การขายจะต้องมีกำไรและต้องพอใจต่อผู้ถือหุ้นด้วย เรามีต้นทุนและดอกเบี้ย สถานที่ที่เราอยู่ตอนนี้คือแจ้งวัฒนะราคาที่ดินดีมาก ก็ต้องคิด ไม่ต้องรีบ แต่ที่เราคิดจะขายเพราะมองว่าธุรกิจนำมันพืชเราทำมานาน แต่ไม่ได้สร้างผลตอบแทนเท่าไหร่ ถ้าขายแล้วได้กำไรก็น่าจะดีกว่า และธุรกิจที่เราซื้อมาทั้งโอปองแปงและดังกิ้น โดนัท สร้างกำไรได้เร็ว"แหล่งข่าว กล่าว

แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า บริษัทไม่ได้รีบร้อนที่จะต้องขายกิจการน้ำมันพืชทิพ แม้ว่าจะอยู่ในแผนงาน เพราะขณะนี้บริษัทเน้นการสร้างยอดขายและผลกำไรจากธุรกิจอาหารเป็นหลัก หลังจากเข้าซื้อกิจการโอบองแปงและดังกิ้น โดนัท ด้วยเงินลงทุน1,300 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเติบโตที่ดีมาก และจะสร้างการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปี 55

ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนขยายธุรกิจต่อเนื่อง โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายคือ ธุรกิจอาหาร ซึ่งถือว่าปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการเพิ่มเติม คาดว่าจะสรุปผลได้ภายในปีนี้

แหล่งข่าว เปิดเผยว่า ปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลทำให้สัดส่วนรายได้ SST เปลี่ยนแปลงไปภายหลังจากขายน้ำมันพืชทิพ โดยรายได้กว่า 90% จะมาจากธุรกิจอาหารและคลังสินค้า ซึ่งถือเป็นตัวผลักดันสำคัญให้ยอดขายรวมของบริษัทเติบโตก้าวกระโดดในปี 55 ประเมิน จะมียอดขาย 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมากจากปี 54 ที่มียอดขายราว 500-600 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ