TRUBB คาดปี 54 กำไรใกล้เคียงปี 53,เป้ารายได้ปี 55 เพิ่มเป็น 2 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 1, 2012 16:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรเทพ วงศาสุทธิกุล ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) (TRUBB) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทคาดว่าไตรมาส 4/54 จะพลิกกลับมีกำไร จากไตรมาส 3/54 ที่มีผลขาดทุน 85.75 ล้านบาท เนื่องมาจากการขาดทุนสต็อก

ขณะที่คาดว่าทั้งปี 54 จะมีกำไรสุทธิใกล้เคียงกับปี 53 ที่มีกำไรสุทธิ 248.34 ล้านบาท โดยในงวด 9 เดือนแรกของปีมีกำไรสุทธิแล้ว 180.19 ล้านบาท

ส่วนในปี 55 บริษัทตั้งเป้ายอดขายเพิ่มเป็น 2 หมื่นล้านบาท จากปี 54 ที่มียอดขาย 1.6 หมื่นล้านบาท หลังจากเพิ่มโรงงานยางแท่งใน จ.ชุมพร ที่เปิดดำเนินการไปเมื่อ ธ.ค.54 กำลังการผลิตราว 5-6 หมื่นตัน/ปี คาดว่าจะทำยอดขายเข้ามาไม่ต่ำกว่า 3.5 พันล้านบาท อีกทั้งธุรกิจหลัก คือ การผลิตน้ำยางข้นน่าจะมียอดขายสูงขึ้น 20-25% ตามปริมาณที่เพิ่มขึ้น จึงคาดว่ากำไรปี 55 จะสูงขึ้นตามรายได้

ส่วนแนวโน้มราคายางหากมีการปรับขึ้นบริษัทไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะไม่ได้ขายล่วงหน้าระยะยาวจำนวนมาก จึงทำให้ความเสี่ยงค่อนข้างน้อย อย่างไรก็ดี แนวโน้มราคาขึ้นอยู่กับตลาด โดยในเดือน ก.พ.ปีที่แล้วราคาปรับขึ้นไปกก.ละ 200 บาทสำหรับราคายางแผ่นชั้น 3 แต่ในปีนี้ถึงแม้รัฐบาลจะเข้ามาแทรกแซงราคายาง แต่ราคายางยังไม่ถึงกก.ละ 120 บาท โดยขณะนี้ราคาอยู่ที่ประมาณ 110 บาท /กก.ยังถือว่าอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้

นายวรเทพ กล่าวว่า ปกติไตรมาส 1 เป็นไตรมาสที่บริษัทมีผลประกอบการดีที่สุด เนื่องจากเป็นช่วงที่ยางออกสู่ตลาดมาก ทั้งการผลิตและยอดขาย แต่ปีนี้ผลประกอบการจะดีเช่นเคยหรือไม่ ต้องดูภาวะเศรษฐกิจโลกทั้งสหรัฐ ยุโรป และจีน โดยบริษัทมีลูกค้ารายใหญ่คือ จีน ซึ่งยังซื้อตามปกติ เพราะหากจีนมีปัญหาจะกระเทือนเรื่องของตลาดส่งออก รวมทั้งตัวแปรที่ไม่ได้คาดคิด

"สิ่งที่เรากังวล คือการแทรกแซงราคายางของรัฐบาล ทำให้กลไกตลาดผิดเพื้ยน ตัวแปรที่น่ากลัวที่สุด รวมทั้งเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท ได้แก่ จีน สหรัฐ และ ยุโรป ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องจับตามอง ก็หวังเศรษฐกิจยุโรปคงไม่ล่มสลาย"นายวรเทพ กล่าว

ทั้งนี้ ในปี 55 บริษัทได้เพิ่มแผนกการบริหารความเสี่ยง เพื่อดูแลความเสี่ยงของราคายางที่ผ้นผวน อัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน และลูกหนี้ ทำให้การบริหารจัดการรัดกุมขึ้น โดยบริษัทได้ทำประกันความเสี่ยง โดยเฉพาะเรื่องราคายาง

ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนการส่งออกและจำหน่ายในประเทศใกล้เคียงกัน 50/50 ขึ้นอยู่กับว่าราคายางในตลาดต่างประเทศดีหรือไม่ ตอนนี้แนวโน้มราคายางส่งออกสู้ราคาในประเทศไม่ได้ ขณะนี้บริษัทส่งออกไปจีนราว 30% มาเลเซีย 25% เกาหลี 10% ที่เหลือเป็นตลาดในประเทศอื่น โดยสินค้าหลัก ได้แก่ น้ำยางข้น มีสัดส่วนขาย 75% และยางแท่ง 25%

ประธานกรรมการ TRUBB กล่าวว่า ช่วงกลางปีนี้บริษัทเตรียมขยายกำลังการผลิตโรงงายยางแท่งอย่างน้อย 1 แห่ง คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 1.3-1.5 พันล้านบาท แบ่งเป็นค่าใข้จ่ายก่อสร้างโรงงาน 300-500 ล้านบาท สำหรับขนาดกำลังการผลิต 6 หมื่นตัน/ปี และอีก 1 พันล้านบาทใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยขณะนี้บริษัทมีที่ดินรอสร้างโรงงานอยู่แล้ว ได้แก่ ทางภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาค ตะวันออก

"ยังดูอยู่ ดูสถานการณ์ต่างๆด้วย ความจริงถ้าโรงงานในชุมพรเปิดแล้วเดิน smooth แล้วทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง เราก็เตรียมตัวโรงใหม่ต่อได้"นายวรเทพ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายพื้นที่ปลูกยางอีก 1 หมื่นไร่ขึ้นไป จากที่มีอยู่ 1 หมื่นกว่าไร่ในพื้นที่ทางภาคเหนือและตะวันออก โดยคาดว่าจะปลูกเพิ่มในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างใน จ.เพชรบูรณ์เพื่อป้อนเข้าโรงงานยางแท่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ