ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เปิดเผยภาวะซื้อขายหลักทรัพย์ในเดือน ม.ค.55 ว่า ตลาดทุนโลกได้รับปัจจัยบวกจากนโยบายการเงินผ่อนคลายของสหรัฐอเมริกา ประกอบกับเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวจากอุทกภัยได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลให้ ณ สิ้นเดือนมกราคม SET Index ปิดที่ 1,083.97 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 5.72% จากสิ้นปี 54 ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ในภูมิภาค
ขณะที่มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) ของ SET อยู่ที่ 8,890,998 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.75% และ mai อยู่ที่ 85,293 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.33%
Forward P/E ratio ของ SET อยู่ที่ 11.42 เท่า ลดลงเล็กน้อยจาก 12.37 เท่า ณ สิ้นเดือนก่อนหน้า mai อยู่ที่ 10.33 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 9.40 เท่า ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทนของ SET อยู่ที่ 3.91% สูงเป็นอันดับสองในภูมิภาครองจากไต้หวัน และ mai อยู่ที่ 2.22%
ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวม SET และ mai อยู่ที่ 24,670.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.74% จากเดือนก่อนหน้า โดยผู้ลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ 2,965 ล้านบาท และมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขาย 24.46% ซึ่งสูงสุดในรอบ 11 เดือน นับจากเดือน มี.ค.54
ขณะที่การระดมทุนบริษัทจดทะเบียนระดมทุนในรูปตราสารทุนมูลค่า 367 ล้านบาท โดยเป็นการระดมทุนเฉพาะในตลาดรอง ส่วนใหญ่เป็นการระดมทุนของ บมจ.ทรัพย์ศรีไทย (SST) และบมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ)
สำหรับภาวะตลาดอนุพันธ์ มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 28,104 สัญญา ลดลง 6.13% จากเดือนก่อนหน้า จากปริมาณการซื้อขายของ SET50 Index futures และ Single Stock futures ที่ลดลง
ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของทั้ง gold futures ขนาด 50 บาท และ gold futures ขนาด 10 บาท ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าโดยอยู่ที่ 4,807 สัญญา และ 9,571 สัญญา ตามลำดับ และในเดือนนี้ oil futures มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 383 สัญญา สูงสุดนับตั้งแต่เริ่มซื้อขายในเดือนตุลาคม 2554